วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2562

รวมเครื่องรางพบปะผู้คน และต้องการเป็นดาวเด่นยามราตรี


สืบเนื่องจาก love amulet มีลูกค้าหลากหลายอาชีพ โดยเฉพาะดารา นางแบบ คนวงการบันเทิง จึงขอรวบรวมเครื่องรางที่เค้าและเธอเหล่านี้นิยมใส่บูชา



เหรียญยันต์ห้าแถวหนุนดวง อาจารย์หนูกันภัย รุ่นแรก 

เหรียญยันต์ 5 แถว หนุนดวงของอาจารย์ หนู กันภัย ด้านหน้าเป็นอาจารย์ หนู กันภัย ด้านหลังยันต์ 5แถวหนุนดวงเหลือเนือกะไหล่เงินเหรียญประสบการณ์ เนื่องจากสมัยนั้นหลวงพ่อเพี้ยนท่านเสกให้ด้วย.  เสกนานที่สุดตั้งแต่ปี2549- 2550 หมดจากสำนักนานแล้วหายากมากๆ (ไม่ใช่ของตามเซเว่น หรือขายตามโทรทัศน์ซึ่งสร้างทีหลังอันนั้นปล่อยผ่าน)

"เหรียญยันต์หนุนดวง" เป็นอักขระขอมโบราณ โดยแถวแรกเป็นคาถาเมตตามหานิยม แถวที่ 2 เป็นคาถาหนุนดวงชะตา แถวที่ 3 เป็นคาถาแห่งความสำเร็จ แถวที่ 4 เป็นคาถาราศีประจำตัวและแถวที่ 5 เป็นคาถามหาเสน่ห์ ถ้าคนดวงไม่ดี การสักต้องสักเป็นยันต์หนุนดวงเพราะถือว่าเป็นยันต์คุณพระที่มีพลังอานุภาพแ ละสามารถที่จะเกื้อหนุนดวงที่ตกต่ำให้โดดเด่นขึ้นมาได้






เหรียญอัศวัตถะสุดยอดเหรียญประสบการณ์ 

เหรียญรุ่นนี้ของดี ผู้ใช้ต่าง  เก็บกันเงียบๆ ใครเล่นสายเทพ สายพรายต้องรู้จักครับดีด้านโชคลาภ หน้าที่การงานแล้ว ใครโดนของ ให้เอาเหรียญนี้ขอบารมีเสด็จปู่ทำน้ำมัน ของต่ำๆ คุณไสยของสำนักไหน กระเจิง !!เหรียญนี้ทำจากชนวนมวลสารจักรเพชรรุ่นแรกของของท่าน ราคาเป็นหมื่นๆ  เสกกันห้าปีโดยบันทึกเป็น DVD 40 ช.ม รุ่นนี้เจตนาดีที่สุด ท่านอาจารย์วินิจ ลุปซ่าร์ บิดาของอาจารย์เณรวิรัช สร้างเองนำชนวนมวลสารของอาจารย์วิรัชชนิดหัวเชื้อใส่หมด ชนวนมวลสารของท่านเอาไปทำวัตถุมงคลสำคัญหลายๆอย่าง เช่นจตุคาม วัดพุทธไธสวรรค์ รุ่นแรก ที่ประสบการณ์เยอะๆ รุ่นชนะมาร รุ่นมั่งมีศรีสุขฯลฯลูกศิษย์ลูกหาสมัยปี 2509 ปัจจุบันรับราชการก็เป็น ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หรือนายพัน นายพลกันหมด คนทำธุรกิจก็เป็นระดับเศรษฐี ใครแขวนสายนี้ไม่มีอับจนบารมีเสด็จปู่(ท้าวมหาพรหมธาดา)ช่วยได้จริงๆๆ

ประสบการณ์แบบ เอาแค่บางเรื่องเช่น ศิลปินไมค์ภิรมณ์พร นักร้องชื่อดังแขวนเดี่ยวเหรียญนี้ค คนรักทั่วประเทศ สมัยนั้นขายเทปได้เป็นนล้านตลับ  มีแต่คนรัก เหรียญจักรเพชร สายตรงเล่นกันครึ่งแสนครับ และหาไม่ได้แล้ว เล่นรุ่นนี้ทำมาจากฉนวนดังกล่าว ถูกกว่ากันเยอะ เจตนาดีที่สุด ประสบการณ์เพียบ



พระลักษณ์หน้าทอง หลวงปู่กาหลง  เขี้ยวแก้ว


ผ้ายันต์นี้วืธีใช้คือเวลาเจอคนให้เช็ดหน้าคล้ายๆการคลุมมนต์พระลักษณ์ทำให้หน้าตาสวยหล่อดังเทพ. สมัยก่อนหลวงปู่อยู่ต้องลงวิชากระโหลกทองคำ 9 ครั้ง ถึงจะได้พลังนี้. เป็นเมตตามหานิยมอย่างแรงโดยได้ลงอักขระหัวใจพระลักษณ์หน้าทอง คาถาขุนแผนชมตลาด และนารายณ์แปลงรูปเมตตามหานิยมและคงกระพันไว้ในผ้ายันต์ผืนนี้ และอบด้วยสีผึ้งของหลวงปู่กาหลง มีกลิ่นหอมเป็นเสน่ห์เมตตาชั้นสูง ผ้ายันต์ผืนนี้ท่านให้เอาไว้ในกระเป๋าเสื้อ ไว้ใช้เช็ดหน้าเช็ดตาก่อนออกจากบ้าน หรือก่อนไปพบเพศตรงข้าม ให้ระลึกถึงหน้าคนผู้นั้นแล้วเอาผ้ายันต์นี้เช็ดหน้า เช็ดตาขอพรให้สมหวังจะดีนักแล หรือใช้ในการเข้าหาผู้ใหญ่ก็ได้เช่นกัน เขาเห็นเรารักเราเหมือนลูกนั้นแล นับเป็นผู้ยันต์ที่มีอำนาจเป็นเสน่ห์ เมตตามหานิยมอย่างแรงดีนัก หรือใว้ใช้ตอนสัมภาษณ์งานก็ดี เวลาต้องไปเจอใครก็ใช้ผ้ายันต์าพระลักษณ์หน้ทองนี่แหละครับเมตตามหาเสน่ห์ดีนักแล 




แก้วตาหลวงพ่อผินะ วัดสนมลาว

      แก้วตานี้ มาจากคำว่าแก้วตาดวงใจ ผู้คนเห็นเกิดความรัก เมตตาเป็นพิเศษ แก้วตาเปรียบเสมือน ดวงตราแห่งปัญญา และ  ความอบอุ่นเปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ มีพลังลึกลับที่คอยช่วยเหลือท่านในทุกเรื่อง เตือนสติให้ลูกหลานอย่าเดินผิดทาง เปรียบดัวของพ่อแม่คอยดูแลอยู่ตลอดเวลาแทนความรักอันยิ่งใหญ่ที่พ่อแม่มีให้ต่อลูก ใครที่บูชาเครื่องรางแก้วตานี้ แล้วหมั่นตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ ด้วยรู้ในจิตสำนึกของตัวเอง จะทำมาหากินใดๆ ก็เจริญรุ่งเรือง หากพ่อแม่จะดุจะด่าเพียงใด ให้รู้ด้วยจิตว่าท่านปรารถดี ให้ปฏิบัติต่อพ่อแม่ด้วยจิตที่สำนึกในบุญคุณ หมั่นปฏิบัติตอบแทนพ่อแม่สม่ำเสมอ

 เครื่องรางนี้จะบังเกิดพลานุภาพวิเศษดีแท้ ให้อธิษฐานขอได้ครับ (อย่าปฏิบัติเพื่อหวังผล จะไม่เกิดพลานุภาพ หากทำด้วยจิตสำนึกของตัวเอง เครื่องรางนี้จะบังเกิดโชคลาภทรัพย์สินเงินทอง) รุ่นนี้สภาพเดิม จากวัดสนมลาว ของหายาก หลวงพ่อผินะ ท่านเป็นเกจิสายวิปัสสนา ไม่ได้ทำวัตถุมงคลเพื่อการพานิชย์ ส่วนมาก ท่านทำเพื่อแจก วัตถุมงคลของท่านจึงออกแปลกแฝงด้วยปริศนาธรรม อย่างลึกซึ้ง (ปัจจุบันมรณะภาพแล้วในท่านั่งสมาธิ และสังขารของท่าน ก็ยังคงนั่งอยู่อย่างนั้นในเจดีย์ทอง 


  
                                               นกฮูกเจ้าเสน่ห์ 

เหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นที่หมายปองยามค่ำคืน ชนิดที่ว่าไม่ได้คู่กลับบ้านให้มันรู้ไป สรรพคุณมากมีวิธีใช้เพื่อเป็นเสน่ห์อยู่ในคู่มือให้หลายวิธี นกฮูกฝังตะกรุดโดยแต่ละดอก
พระอาจารย์ตี๋ได้เมตตาจารให้เองทุกดอก จากนั้นนำตะกรุดทั้งหมดมาทำการปลุกเสกบรรจุพลังเวทย์ให้เข้มขลังตามตำรา ตะกรุดนกทึกทือ 

ใช้ดีทางด้านเจรจาค้าขาย เมตตามหานิยม โชคลาภ ทำมาหากินกล่อง กันคุณไสยน์เสนียดจัญไรต่าง ๆ มีผู้นำไปใช้บูชาแล้วมีประสบการณ์มากมาย จากประสบการณ์ของผู้ที่บูชาตะกรุดนี้ไปจากศูนย์ บางท่านนำตะกรุดนี้บูชาติดตัวมีงานเข้ามาไม่ขาด น่าบูชามากครับ โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ขาย ศิลปินนักแสดง นักขาย บุคคลทั่วไปที่ต้องการความสำเร็จทางการงาน แนะนำให้ใช้ครับเป็นสุดยอดของดีราคาย่อมเยาสร้างน้อย ผู้ที่รู้คุณค่าและทราบถึงพระเวทย์วิทยาคมของหลวงปู่ควรมีไว้บูชาเป็นอย่าง ยิ่ง








วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2562

เครื่องรางสายมู ด้านเสี่ยงโชค




มีคนถามหลายคนว่าช่วยแนะนำเครื่องรางด้านเสี่ยงโชคแบบมีประสบการณ์ ข้ าพเจ้าจึงรวบรมชุดที่เรียกว่าประสบการณ์มาให้อ่านสนุกๆ เพราะช่วงนี้สายตะกรุดมาแรง  อันนี้เพียงบางส่วนเนื่องจาก สายโชคลาภมีหลากหลายประเภท  ปล.ไม่สนับสนุนให้เล่นการพนันนะ เพียงแต่เสี่ยงดวงนิดๆหน่อยก็พอ



ตะกรุดเซียน โค้นเซียน 

ฤษีธรรมะราช เป็นตะกรุดหนุนดวง (ดวงใครไม่ดี ไม่เคยมีโชคลาภ เข้าบ่อนเล่น การพนันไม่เคยได้ ดวงไม่เฮงมาหลายปี ไม่เคยถูกหวย ไม่มีลาภลอย ทำการค้าไม่มีกำไรฤษีธรรมะราชผูก ตะกรุดเซียน โค้นเซียน ด้วยศาสตร์ไสยศาสตร์ ใช้วิชาเปิดดวงเบิกฟ้า ใช้ฤกษ์ยามดีปลุกเสก ฤกษ์โจรทำอะไรง่ายๆ ได้สิ่งที่ต้องการง่ายๆเหมือนโจรปล้นฤกษ์ราชาทำอะไรก็เหมือนราชาเป็นเศรษฐี และฤกษ์ดีต่างๆที่ฤษีธรรมะราชตั้งใจทำ    สั่งบูชา


ตะกรุด นายบ่อน อุดพราย๕๙ ตน

 อาจารย์ปู่อี๋สร้างตะกรุดนี้ขึ้นมาโดย วิลงหัวใจนายบ่อน วิชาโบราณนายบ่อนเล่นเบี้ยเล่นโบก พนันขันต่อ เป็นเครื่องรางด้านหนุนดวงใช้หนุนโชคลาภ เสี่ยงดวง เสี่ยงโชค เสริมดวงด้านการเสี่ยงดวง เสริมดวงด้านโชคลาภ หากใครไม่ถนัดเรื่องเสี่ยงโชค พกไปจะช่วยเสริมดวงด้านโชคลาภ ด้านการค้าการขาย ค้าขายดีมีกำไร 9 นายบ่อนใช้สยบอาถรรพ์ เจ้าที่บ่อน ไม่ว่าจะเป็นบ่อนไทย บ่อนลาว บ่อนพม่า บ่อนเขมร หรือลัสเวกัส ใช้เสริมดวง หนุนดวงด้านเสี่ยงโชคลาภ นักแสวงโชคต้องมีไว้เสริมดวงกันทุกคน คาถาปลุก อุ เย อะ เย เส ตะ อะ เส อุ เสก3จบ ปลุกตะกรุดก่อนใช้งาน เลี้ยงเหล้าขาวเดือนละ1เป๊ก ธูป1ดอก ท่องคาถาปลุกตะกรุดแล้วเชิญท่านมาดื่มเหล้า หากไม่มีเวลาเลี้ยงก็บอกเขาได้ หากจะใช้วันไหนก็เลี้ยงเหล้าได้เลย จะเลี้ยงวันไหนเวลาไหนเชิญได้ตามสะดวก ไม่เข้าตัว ท่านเสกไว้ดีแล้ว   สั่งบูชา



ตะกรุดเศรษฐีหูช้าง อาจารย์เสือลายพยัคร

 ตะกรุดเศรษฐีหูช้าง ทำพร้อมกับตะกรุดมหามนต์จนไม่เป็น เสกพิธีเดียวกัน ประสบการณ์เหมือนกันเพียงแต่คนไม่ทราบ  ทุกดอก พันด้วยผ้าบังสุกุลเป็นคือการเกิดใหม่การตั้งต้นชีวิตใหม่การเกิดขึ้นใหม่การตั้งตัวการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทุกดอกอุดผงพุทธคุณ , ผงอิติปิโสรัตนมาลา,ผงตรีนิสิงห์เห,ผงมหาราช ,ผงพระสิวลี,ผงบุรุษแปดจำพวก,ผงอิทธิเจ ,ผงปัถมัง ,ผงจินดามณี ,ผงเงาะถอดรูป, ผงจตุโรบังเกิดทรัพย์

ปลุกเสก อัดแน่นด้วยพระเวทย์,พระคาถามหามงคล,พระคาถาเจริญโภคทรัพย์ ,คาถาจินดามณี,พระคาถาเสริมดวง ,พระคาถาเสริมโชค ,พระคาถามหาลาภ ,คาถานวหรคุณเต็มสูตรเสกปิดด้วยพระคาถา อิติปิโสหูช้าง
โบราณกล่าวว่า “พระคาถาอิติปิโสหูช้าง” บทนี้ ถ้าหาทรัพย์มิได้ให้เขียนไว้ก้นถุง ทรัพย์มิขาด เลย เสกด้วยคาถานี้ 108 พระคาถานี้กิน มิรู้สิ้นเลย ให้ภาวนาไว้ 108 คาบ ประสงค์สิ่งใดได้ดังปรารถนาแล ถ้าถูก จองจำ ภาวนา 9 คาบหลุดแล ถ้าจะให้ เป็นจังงัง เอาลิ้นดุนเพดานว่า 11 คาบ แลฯและ อาจารย์ท่านยังลงหัวใจนักเสี่ยงโชคลงไปอีกด้วย   สั่งบูชา




ตะกรุดเทพนักเสี่ยงโชค
อาจารย์โต เจ้าของตำนานตะกรุดโคยเคียว รุ่นแรก ท่านลงวิชาราหูแห่งการพนัน หัวใจเทพพนัน หัวใจเซียนนักเสี่ยงดวง อุดผงกะลาตาเดียวผงไพรดำ ผงพราย59ตน ผงพรายดี ใช้ในด้าน เสี่ยงดวง เสี่ยงโชค คนชอบการพนันขันต่อ หวย ม้าแข่ง นักขาย พ่อค้าแม่ค้า นักประชาสัมธ์ คนทีต้องใช้คำพูดเจรจาอธิฐานก็จะช่วยเสริมให้ดวงดียิ่งขึ้นไป ( คาถาเสก อุเยอะเย เยอะเยอุ สุสิสุสัง นะสังตังนะ เสก 3จบ เสกให้ขึ้นใจยิ่งดี ) สั่งบูชา





ตะกรุดแฝดมหาเศรษฐี

ครูบาลาย องค์นี้ท่านสำเร็จวิชามหาลาภ โดยตะกรุดที่สร้างชื่อท่าน คือตะกรุดแฝด ท่านนำเอาผงวิเศษมหาลาภเรียกทรัพย์ ผงมหาเศรษฐีนวโกฎิ ผงเมตตา มหาเศรษฐีมาอุดตะกรุด ผงวิเศษมหาลาภเรียกทรัพย์ ผงมหาเศรษฐีนวโกฎิ ผงเมตตามหาเศรษฐีมาอุดตะกรุด ครูบาใด้ปลุกเสกด้วยพระคาถายันต์โภคทรัพย์ พระคาถาหัวใจพระฉิมพลี พระคาถานะเศรษฐี พระคาถาหนุนดวงมหาลาภ พระคาถาจตุโรบังเกิดทรัพย์ พระคาถานะโภคทรัพย์ พระคาถามนต์แม่น้ำทั้งห้า  พระคาถานะเงิน นะกินมิรู้สิ้น และ พระคาถานะสำเร็จท่านเสกทุกคืนนานนับปี อธิฐานขอบารมีอาจารย์เดชทางบุญ หนุนดวง เปิดบารมีเปิดทางทำมาค้าชายดี ติดต่อธุระกิจการงานใดๆก็ราบรื่น เรียกทรัพย์ เรียกลาภ มีลาภลอย โชคลาภ เสี่ยงดวง เสี่ยงโชค หรือมีคนเมตตาเรื่องเงินทอง  คาถาปลุกเสก นะโม 3 จบ ทุสะมะนิ ทุสะนะมิ ธะนังโภคัง มานิมามา เมตตา ลาภั เอหิมะมะ เสก จบ 3 ) สั่งบูชา





รวมพระคาถาเรียนเก่ง สมองไว ปัญญาดี




รวมคาถาเรียนเก่ง สมองไว ปัญญาดี ช่วงนี้การแข่งขันด้านการเรียน การสอบ และการทำงานสูง ข้าพเจ้าจึงรวบรวมคาถาดีๆ มาให้เพื่อนๆทุกท่านครับ

คาถากำเนิดสมาธิ
อิติ สัมมาสัมพุทธัสสะ มะมะ จิตตัง
เมื่อใดที่จิตเกิดอาการฟุ้งซ่านขึ้นมา ให้ทิ้งคำภาวนาอย่างอื่นเสียให้หมด
กำหนดลมหายใจเข้าออก ว่าคาถานี้ตามสบายๆ กำลังของสมาธิจะรวมตัวได้รวดเร็ว
พระคาถาไหว้ครูอาจารย์ เพื่อส่งเสริมการเรียน
ยันหา ธัมมัง วิชาเนยยะ สัมมาสัมพุทธะเทสิยัง สักกัจจัง
ตัง นมัสเสยยัง อัคคิหุตตังวะ พราหมโณติฯ

คาถาพระอินทร์    
 (จากหนังสือสมบัติพ่อให้ หน้า207 – 208)
สหัสสเนตโต เทวินโท ทิพพจักขุง วิโสทายิ(ท่อง 7 จบ)
เวลาอยู่ในห้องสอบ ให้ลองทำดูก่อน ว่าทำได้ไหม ถ้าไม่ได้ ก็ให้คว่ำกระดาษข้อสอบลง แล้วนึกถึงพระพุทธเจ้า นึกถึงพระอินทร์ ท่องนโม 3 จบ แล้วท่อง “สหัสสเนตโต เทวินโท ทิพจักขุง วิโสทายิ” 3 ครั้ง แล้วหงายกระดาษขึ้นมาดูข้อสอบว่าทำได้หมดไหม ถ้าไม่หมด คว่ำกระดาษไปใหม่ นึกถึงพระพุทธเจ้า นึกถึงพระอินทร์ ท่องนโม 3 จบ แล้วท่อง “สหัสสเนตโต เทวินโท ทิพจักขุง วิโสทายิ” อีก 7 จบ แล้วหงายกระดาษขึ้นมา คราวนี้ไม่ต้องดูแล้ว ให้ตอบตามความรู้สึก ผลก็เป็นไปตามนั้น

คาถาเรียนดีมีความจำเลิศ
สักโก โอสะถัง พุทธโกสาจะ ธัมมัง ลังกายัง
สีหะกะฬะภาสา พะหูลาภา พะหูปัญญา พะหูสิงเห ปะสิทธิเมฯ

พระคาถาทำให้ปัญญาว่องไว
ปัญญาจิตตัง สิเนหัง พันธัง สะวาหุมฯ ครบ ๓ จบ


คาถาเสกหมากกินมีปัญญา
โอม เตระอุตตะมัง วะลังวะระ
มาหาปัญโญ สะวาโหมฯ
พระคาถาบริกรรมก่อนเข้าห้องสอบ สมองใส
โอม ปุ ปะ ทะ ลุ ทัน ตา
ปัญญาโมกขัง อะระหัง บังเกิดฯ
คาถาตะกรุดเปิดสมอง
นะโปร่ง นะปุ นะทะลุปัญญา
พระคาถาอิติปิโสรัตนมาลา บทที่ 11
สัญจะยังปาระมิงสัมมา สังขารานังขะยังกัต๎วา
สัญจิต๎วาสุขะมัตตะโน สันตะคามิงนะมามิหังสำหรับบทนี้ ตำรับกล่าวชี้ ว่าดีจริงสำหรับเสกยา ปัญญาดียิ่ง สุดจะหาสิ่ง ใดมาเปรียบปาน

คาถาปัญญาดี
สุ จิ ปุ ลิ (หัวใจนักปราชญ์)
โอมปุปุ ทะลุปัญญา ปัญญาปุปุฯ
ปุปุ ทะลุปัญญา พุทธชักมา พาคิดได้
อัธยังยะ สว่างวะดังดวงแก้ว
โอม ปุปุ ทะลุปัญญาพุทธโลกานุกัมปกาติ
โอมปุปุ ทะลุปัญญา ทะลุโลกา ปัญญาปุปุ
นะ ปะติ ปรุ ลุทันตา พุท ธะ รู ปา เอหิ ปัส สิ โถ



คาถาพระสุนทรีวาณี(คาถาเรียกความจำ)
มุนินทะ วะทะนัมโพชะ คัพภะสัมภะวะ สุนทรี ปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปีณะยะตังมะนังฯ
นาง ฟ้า คือพระไตรปิฎก อันเกิดจากดอกอุบล คือพระโอฏฐ์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งพำนักของสรรพสัตว์ทั้ง หลาย ขอจงยังใจของข้าพเจ้าให้เอิบอิ่มปรีดาปราโมทย์ รู้แจ่มแจ้งแทงตลอดจำได้ซึ่งพระไตรปิฏกทั้งโลกิยะและโลกุตระ หรือเรื่องราวทางโลก-ทางธรรม ให้ทวนกลับมาในห้วงสัญญา ด้วยเทอญฯ


หัวใจมุตโต (ปัญญาแตกฉาน)
มุตโต มุตตัง อะระหังพุทโธ สะหัสสะเนตโต เทวินโททิพพะจักขุงวิโสธายิ

คาถาปัญญาดีโบราณ ของหลวงปู่มั่น
วิธี ใช้ ตั้งจิตระลึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ คุณเทวดาคุณพรหม และหลวงปู่มั่นเป็นที่สุด แล้วอธิษฐานดังนี้ ด้วยเดชะอานุภาพบารมีของพระทั้งหลายขอให้ข้าพเจ้ามีสติปัญญาผ่องใสสามารถ เล่าเรียนหรือทรงจำความรู้ได้ว่องไวคล่องแคล่วแตกฉานแม่นยำ สิ่งใดที่ยังไม่รู้ก็ขอให้รู้แจ้งโดยไว สิ่งใดที่รู้แล้วก็ขอให้จำได้อย่างแม่นยำอย่าได้ลืมเลือนด้วยเถิด สาธุ
 (ตั้งนะโม 3 จบ) อะอิงอ้อ อ้อสูตร อ้อเขียน อ้อเรียน อ้อมัด อ้อคัดหัวใจ อ้อไขเห็นดูก อ้อผูกเห็นเงา อ้อเกาเห็นยอด อ้อขอดเห็นใบ นะจำจิต โมจำใจ พุทจำไว้ ทาจำให้ อย่าให้หลงลืม นะโมพุทธายะ (ท่อง 3 จบหรือ 7 จบ)


คาถานี้หลวงปู่ทองฤทธิ์ วัดป่าฉันทนิมิต
 ซึ่งเดิมท่านเป็นคนปัญญาไม่ดี อายุ 7 ขวบ ยังอ่านหนังสือไม่ได้ เขียนก็ไม่ได้อีก หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เสกข้าวปั้นให้กินทุกวัน จนท้ายที่สุด หลวงปู่ทองฤทธิ์ กลายเป้นคนที่มีปัญญาฉลาดว่องไว ก่อนหลวงปู่มั่นมรณะภาพ ท่าเขยนใส่ใบลานลอดใต้ถุนให้ หลวงปู่ทองฤทธิ์หลวงปู่ทองฤทธิ์จึงเอาคาถานยี้มอบให้อาจารย์ชินพรทำตะกรุดอ้อป่อง

พระคาถาทะลุปัญญา(หลวงปู่มั่น)
โอม ปุปุ ทะลุปัญญา พุทธรูปปะ เอหิ มะมะ
เป็นพระคาถา ทะลุปัญญา เป็นคาถาที่หลวงปู่มั่นใช้เสกข้าว กิน
ท่านว่ามีปัญญา มาก เป็นพระคาถากินแล้วเจริญปัญญา แคล้วคลาดปลอดภัย


คาถาสารพัดนึก
พระพุทธเจ้า ทานะปาระมี สีละปาระมี เนกขัมมะปาระมี ปัญญาปาระมี วิริยะปาระมี ขันติปาระมี สัจจะปาระมี อธิษฐานะปาระมี เมตตาปาระมี อุเบกขาปาระมี ทานะอุปปะปาระมี สีละอุปปะปาระมี เนกขัมมะอุปปะปาระมี ปัญญาอุปปะปาระมี วิริยะอุปปะปาระมี ขันติอุปปะปาระมี สัจจะอุปปะปาระมี อธิษฐานะอุปปะปาระมี เมตตาอุปปะปาระมี อุเบกขาอุปปะปาระมี ทานะปะระมัตถะปาระมี สีละปะระมัตถะปาระมี เนกขัมมะปะระมัตถะปาระมี ปัญญาปะระมัตถะปาระมี วิริยะปะระมัตถะปาระมี ขันติปะระมัตถะปาระมี สัจจะปะระมัตถะปาระมี อธิษฐานะปะระมัตถะปาระมี เมตตาปะระมัตถะปาระมี อุเบกขาปะระมัตถะ

ปาระมี บารมี ๓๐ ทัศ
อานิสงค์ : สารพัดนึกสวดให้ปัญญาดี
สัพเพพุทธามหาเตชามหาปัญญามหัพพลา
เตสาหํสิรสาปาเทวันทามิปุริสุตตเม
คำแปล: “พระพุทธเจ้าทั้งหลายผู้มีเดชยิ่งใหญ่ มีกำลังยิ่งใหญ่
ข้าพเจ้าขอนมัสการพระบาทของพระพุทธเจ้าทั้งหลายด้วยเศียรเกล้า”
หมายเหตุ 1.) ความในบทมนต์นี้มีคำที่อ้างถึงปัญญาของพระพุทธเจ้าและนมัสการด้วยเศียรเกล้าซึ่งเป็นการเคารพต่อปัญญาผลสะท้อนอาจจะมีมาช่วยปัญญาของเราได้ 2.) เป็นมนต์ใน “อาฎานาฏิยปริต”

วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2562

รวมเครื่องรางทำให้เรียนเก่งความจำดี

ตะกรุดมหามงคลหลวงพ่อจรัญ
สุดยอดตะกรุดเรียกทรัพย์ ศิล สมาธิปัญญา ในตำนาน ตะกรุด มหามงคล๘๔  ของ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน กลายเป็นของหายากที่ลูกศิษย์ลูกหา เสาะหากันครับนตะกรุดพิเศษพิสดารชนิดหนึ่ง สร้างยาก หาพระอริยสงฆ์สร้างได้ยากมีนับองค์ได้ในประเทศไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเนื่องจากตกทอดกันในสายพระป่า เป็นตะกรุดที่มีไว้ใช้ให้ลูกหลานทำข้อสอบ การสอบแข่งขัน อธิษฐานจิตขอพรให้ความจำผุดขึ้นมา มีความจำที่แม่นยำจดจำได้หมดจากที่เคยอ่านตำราเรียนมา เอาไว้ทำข้อสอบ ถ้าทำไม่ได้ให้นึกถึงตะกรุด แล้วความทรงจำเก่าๆ ที่อ่านผ่านมา จะผุดขึ้นมาทีละน้อยจนจดจำได้ทั้งหมด เป็นความอัศจรรย์ เป็นตะกรุด ท่านบอกเอาไว้ใช้ให้เรียนหนังสือให้เก่งๆ มีความจำดีๆ ความจำผุดขึ้นมา มีความจำดีๆ ปัญญาดี



ตะกรุดสมองไว ปัญญาดี
หลวงปู่หงษ์พรหมปัญโญ เป็นตะกรุดที่หลวงปู่ตั้งใจสร้างขึ้นมาให้เด็กโดยเฉพาะ หลวงปู่ว่าเด็กที่มีตะกรุดจะมีสมองที่ไว จำง่ายและจะได้เก่งๆกันทุกคน มีคนหลายคนนำไปใช้แล้วมีผลมากจึงให้ฉายาตะกรุดนี้ว่าตะกรุดอิกคิวซังตะกรุดเงินจารมือ สร้างปี  2546 ปลอดตะกรุดไว้แขวนไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก





พระมหาวิฆเนศวรฤทธิ์แห่งปัญญาของพระพิฆเนศ
เครื่องรางแห่งความรู้ การศึกษา และสอบไล่ ถือว่าเป็นพระพิฆเนศปางแห่งปัญญาสูงสุดปลุกเสกโดยศาสตร์แห่งพลังแท้จริง มีตัวตนสัมผัสได้จัดสร้างโดย ผู้ทรงวิทยาคุณทางด้านของ เทวะศาสตร์โบราณ ส่วนทางด้านเนื้อมวลสารประกอบด้วยเนื้อผงพระเศวตพัตร ผงเทพนิมิตร ผงวิภูติ ตามสายพระคเณศวรโดยเฉพาะ ด้านหลังพิมพ์เป็นภาษาเทวนาคี จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2548 พระพิฆเนศ เป็นเทพในศาสนาพราหมณ์ เป็นโอรสของพระอิศวรและพระอุมาเทวี นับถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความรู้ เป็น ผู้มีปัญญาเป็นเลิศ ปราดเปรื่องในศิลปวิทยาทุกแขนง เป็นหัวหน้านำคณะข้ามความขัดข้อง (ผู้เป็นใหญ่เหนือความขัดข้อง) คนไทย ยอมรับในองค์พระพิฆเนศให้เป็นเทพแห่งศิลปะทั้งมวล และเป็นเทพองค์สำคัญในการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ การบูชาพระพิฆเนศด้วยความเคารพ และอาศัยบารมีของพระองค์ท่าน เพื่อขจัดปัดเป่าอุปสรรค อุปัทวันอันตราย ที่จะบังเกิด ขึ้นในปัจจุบันและอนาคตให้พ่ายแพ้ไป และให้มีแต่ความสุข ความเจริญ มีความรุ่งโรจน์สมบูรณ์อยู่เป็นนิจ

เสือนอนกินหลวงปู่นิเวศน์

ท่านว่าเสือของท่านฉลาดให้พกพาก่อนออกจากบ้านด้วยพลังอำนาจของเสือช่วยเสริมตบะบารมีอำนาจเหนือผู้ใด ผู้คนเกรงขาม เป็นนะจังงังต่อผู้พบเห็น  ปกครองลูกน้องเกรงขาม หรือเจรจาค้าขาย พูดจา เปรียบดังอำนาจเสือคำราม ติดต่อการงานดีมาก อำนาจเสือดังมนต์สะกด ทำให้เขาเชื่อฟังเราทุกอย่าง ช่วยปกป้องเกื้อหนุนให้ผู้ครอบครองเป็นใหญ่เป็นโต มีอำนาจดังเสือ พิเศษน้ำมันทุกขวดหลวงปู่ บรรจุตะกรุดเงินค้ำดวงชะตาเสริมบามีเพิ่มลงไป ให้ผู้บูชาได้พบแต่ความสำเร็จ ในชีวิตไม่พบแต่ความตำต่ำหรือตกอับแต่อย่างไร น้ำมันเสือนอนกินยังเน้นทางโชคลาภเรียกเงินหากินเก่งหรือทางเมตตามหาเสน่ห์ได้อีกด้วย 


วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2562

เบี้ยชวาเครื่องรางนำโชค และชัยชนะ




เหรียญชวา มีกว่า 500ปี แล้ว มีลักษณะเป็นเหรียญกลม มีรูปคนหาหน้าเข้าหากัน ชนิดที่มีเดือยตรงกลางเรียกว่าเบี้ยวาตัวผู้ ชนิดที่มีรูสี่เหลี่ยมตรงกลางเรียกว่าเบี้ยวาตัวเมียคนภาคใต้เชื่อว่าเบี้ยวาเป็นของขลังที่มีความศักดิ์สิทธิ์ผู้ที่มีเบี้ยวาไว้ในครอบครองจะเป็นผู้มีวาสนา มีโชคลาภบังเกิด สามารถป้องกันเขี้ยวงาสัตว์ร้ายและศาสตราวุธได้เบี้ยวาเป็นเงินของชวาพบมากในแถบภาคใต้เขาเรา มีตำนานเล่าต่อๆกันว่า ครั้งหนึ่งกองทัพเรือชวาเข้าโจมตีเมืองนครศรีธรรมราช ได้ยกทัพมาล้อมเมืองแต่เข้าตีเมืองไม่สำเร็จเนื่องจากเมืองนครในสมัยนั้นมีต้นไผ่สีสุกที่มีหนามแหลมคมโอบล้อมเป็นกำแพงอยู่โดยรอบอย่างหนาแน่น แม่ทัพเรือชวาใช้อุบายเพื่อทำลายกอไผ่เสีก่อน โดยการให้ทหารโยนเงินชวาเข้าไปในก่อไผ่ ฝ่ายทหารนครศรีธรรมราชที่รักษาเมืองอยากรู้ว่าทหารชวาโยนอะไรเนื่องจากก่อไผ่ขึ้นหนาแน่น จึงทำการถากถางก็พบเหรียญชวาอยู่ในกอไผ่ พวกทหารเห็นเป็นของแปลกจึงแยงชิงกันถากถางก่อไผ่ ปีต่อมาจึงยกกองทัพมาอีกจึงเข้าตีเมืองนครได้สำเร็จ โดยเข้าปล้นเอาทรัพสินแล้วยกทัพกลับจึงกลายเป็นตำนานของเบี้ยชวาแต่ภาษาใต้เรียกสั้นๆว่า "เบี้ยวา

รูปทรง
 เหรียญเบี้ยวาได้ดำรงคงไว้ในในแบบฉบับเดิมโดยได้อันเชิญมหาเทพ ผู้สร้างและผู้ทำลายล้างสิ่งชั่วร้ายและเทวีแห่งความโอบอุ้มดูแลรักษา ประดุจมารดาและมหาเทวีแห่งความอุดมสมบูรณ์  มาผูกไว้ในเหรียญ ให้เหรียญเบี้ยวาเป็นเหรียญที่ถูกต้องตามตำราที่สุด

อนาคต
 เหรียญชวา เบี้ยบินจะเป็นเครื่องรางที่ถูกพูดถึงของวงการพระเครื่อง ในวันหน้าอย่างแน่นอน เพราะมีเอกลักษณ์และแบบฉบับในตัวที่ไม่เหมือนใคร และจะหาผู้ที่รู้จริงมาทำการสร้างในวันหน้ายากแน่นอน

ประสบการณ์ในอดีต
 เบี้ยวา จากคำบอกล่าวของคนเฒ่าคนแก่ จะบอกว่าสามารถบิน ไปมาได้จากยอดภูเขาหนึ่งไปสู่อีกภูเขาหนึ่ง และในเหรียญเบี้ยวา จะมีเทพดูแลรักษา พุทธคุณของเหรียญสามารถนำความมั่งคั่งร่ำรวย มาสู่ผู้ครอบครองได้ เป็นเครื่องรางคงกระพัน กันคุณไสย์ สามารถ นำมาอาราธนาทำน้ำมนต์แก้คุณไสย์มนต์ดำ หากบ้านหรือร้านค้า และไร่นาทำมาค้าไม่ขึ้น นำเบี้ยวาทำน้ำมนต์ก็จะเกิดความเจริญ งอกงามขึ้นได้

ประสบการณ์ที่สำคัญ

 ครูหมอทางภาคใต้มักจะสืบหาเบี้ยวาเพื่อทำการขอหวย ด้วยความเชื่อว่าเบี้ยวา ถ้าอยู่ในความครอบครองของผู้ที่มีวิชาอาคม สามารถขอพรให้ประธานโชคลาภ (บอกหวยได้) เป็นประสบการณ์ การบอกเล่าของชาวภาคใต้ จากอดีตมาสู่ในยุคปัจจุบันกันเลยทีเดียว

  การสร้างพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง วัตถุมงคลต่างๆนั้น ต้องรู้จริงและทำตามครูบาอาจารย์ที่เรียนรู้มาอย่างถูกต้อง ทุกขั้นตอน เพื่อดำรงค์ไว้ซึ่งวิชาไม่ให้สูญหายและต้องไม่ขาดตก บกพร่องและที่สำคัญ วัตถุมงคลส่วนใหญ่อาตภาพจะทำการสร้าง จนเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว จึงจัดให้ผู้ที่สนใจเช่าบูชากันได้เลย  โดย ไม่ต้องจอง เพื่อความบริสุทธิ์ของวัตถุมงคล และรักษาการสร้าง วัตถุมงคลในแบบฉบับบรูพาจารย์โบราณ

โดยสรุป

เหรียญชวา มีกว่า 500ปี แล้ว มีลักษณะเป็นเหรียญกลม มีรูปคนหาหน้าเข้าหากัน ชนิดที่มีเดือยตรงกลางเรียกว่าเบี้ยวาตัวผู้ ชนิดที่มีรูสี่เหลี่ยมตรงกลางเรียกว่าเบี้ยวาตัวเมีย

คนภาคใต้เชื่อว่าเบี้ยวาเป็นของขลังที่มีความศักดิ์สิทธิ์ผู้ที่มีเบี้ยวาไว้ในครอบครองจะเป็นผู้มีวาสนา มีโชคลาภบังเกิด สามารถป้องกันเขี้ยวงาสัตว์ร้ายและศาสตราวุธได้เบี้ยวาเป็นเงินของชวาพบมากในแถบภาคใต้เขาเรา มีตำนานเล่าต่อๆกันว่า ครั้งหนึ่งกองทัพเรือชวาเข้าโจมตีเมืองนครศรีธรรมราช ได้ยกทัพมาล้อมเมืองแต่เข้าตีเมืองไม่สำเร็จเนื่องจากเมืองนครในสมัยนั้นมีต้นไผ่สีสุกที่มีหนามแหลมคมโอบล้อมเป็นกำแพงอยู่โดยรอบอย่างหนาแน่น แม่ทัพเรือชวาใช้อุบายเพื่อทำลายกอไผ่เสีก่อน โดยการให้ทหารโยนเงินชวาเข้าไปในก่อไผ่ ฝ่ายทหารนครศรีธรรมราชที่รักษาเมืองอยากรู้ว่าทหารชวาโยนอะไรเนื่องจากก่อไผ่ขึ้นหนาแน่น จึงทำการถากถางก็พบเหรียญชวาอยู่ในกอไผ่ พวกทหารเห็นเป็นของแปลกจึงแยงชิงกันถากถางก่อไผ่ ปีต่อมาจึงยกกองทัพมาอีกจึงเข้าตีเมืองนครได้สำเร็จ โดยเข้าปล้นเอาทรัพสินแล้วยกทัพกลับจึงกลายเป็นตำนานของเบี้ยชวาแต่ภาษาใต้เรียกสั้นๆว่า "เบี้ยวา

 


วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2562

หลวงพ่อผินะ พระอริยสงฆ์ผู้อยู่เหนือกาลเวลา




บทความนี้เป็นการรวบรวมเรื่องราวของหลวงพ่อผินะ อดีตเจ้าอาวาสวัดสนมลาท่านเป็นพระผู้ทรงอภิญญามีฤทธิ์ทางใจเป็นอัศจรรย์ท่านสำเร็จกสิณ 10 สามารถแสดงฤทธิ์ต่างๆได้ ตามประสงค์ รู้วาระจิตของคนอื่น ปลุกเสกวัตถุมงคลขึ้นมาเหมือนมีชีวิตจิตใจ สามารถบนบอกได้ ขอได้ พูดกันรู้เรื่อง ขอให้มีของท่าน อะไรก็ได้ ใช้ได้เหมือนกัน ภาวะสุดท้ายในชีวิตท่านละสังขารในท่านั่งสมาธิ ปัจจุบันศพไม่เน่าไปเปื่อย ท่านเป็นใครมาจากไหนลองอ่านดูกันครับ

 ย้อนหลังกลับไป เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2545 ชาวบ้านต่างเดินทางไปที่วัดสนมลาว หมู่ที่ ต.โคกแย้ อ.หนองแค จ.สระบุรีด้วย เกิดเหตุปรากฏการณ์ความมหัศจรรย์ ภายหลังการมรณภาพลงอย่างสงบของ "หลวงพ่อผินะ ปิยธโร" สิริอายุ 89 ปี เจ้าอาวาสวัดสนมลาว

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

 ร่างหลวงพ่อผินะนั่งหมดลมหายใจในท่านั่งขัดสมาธิอย่างสงบเหตุที่ไม่ปกติเพราะท่านมรณภาพเวลาประมาณ 05.14 น. แต่เวลาล่วงเลยกว่า 12 ชั่วโมงแล้วร่างกายเนื้อตัวท่านยังอ่อนนิ่ม ไม่คล้ายดังคนที่หมดลมหายใจแต่อย่างใดก่อนหน้านี้หลวงพ่อผินะได้ทำหนังสือ เขียนสั่งไว้ มีใจความว่า "เมื่อฉันละสังขาร ขอให้ปฏิบัติตามนี้ คือ ห้ามฉีดยาศพโดยเด็ดขาด ให้เก็บศพไว้ในสภาพนั่งขัดสมาธิ ให้บรรจุศพไว้ในที่เตรียมไว้ ณ สุสานผินะ ไม่ต้องมีการสวดศพ ไม่ต้องบอกคนมาก ห้ามเผาศพโดยเด็ดขาด" สั่ง ณ วันที่ ตุลาคม 2545 ลงชื่อ พระผินะ ปิยธโร พระอาจารย์ใหญ่ประธานคณะปฏิบัติธรรม วัดสนมลาววิหารพระพิศาลมงคลวัตร เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี (ธรรมยุต) กล่าวว่า ได้ทำการบรรจุศพในวันที่ 16 ตุลาคม 2545 และทำตามที่ท่านสั่งไว้ โดยสั่งช่างทำโลงแก้ว บรรจุศพในท่านั่งขัดสมาธิ และนำไปตั้งไว้ที่สุสานผินะ ที่ท่านสั่งให้สร้างไว้แล้ว 

ประวัติหลวงพ่อผินะ ปิยธโร มีนามเดิมว่า ทวาย หาญสาริกิจ เกิดเมื่อวันที่ มีนาคม 2456 บ้านหัวลำโพง อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี วัยเด็กหลวงพ่อมีโรคประจำตัวรักษาไม่ หาย หลังการร้องไห้ทุกครั้ง จะต้องมีอาการชัก จนหน้าเขียว โยมมารดาพาไปหาหมอรักษาโรค แต่อาการไม่ดีขึ้น ครั้นพอหมดหนทางจึงได้พาบุตรชายไปหาหลวงพ่อสิน เจ้าอาวาสวัดหนองเตา ต.โนนขี้เหล็ก อ.เมือง จ.อุทัยธานี  หลวงพ่อสินระบุว่า ชื่อทวาย เป็นกาลกิณี ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นผินะ มาจากคำว่าผิน แปลว่า หันหน้าหันหลังเปลี่ยนทิศทางไม่แยแสหรือเลิกคบกัน นับแต่นั้นอาการดังกล่าวได้ทุเลาลงพ.ศ.2481 บิดาได้ล้มป่วยและเสียชีวิต จึงได้บรรพชาเป็นสามเณร เพื่ออุทิศส่วนกุศล พออายุครบบวชจึงได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ วัดหนองเต่า โดยมีพระครูอุดมคุณาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอทัพทัน เป็นพระอุปัชฌาย์พระมหาอำนวย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ในระหว่างเป็นพระภิกษุพระผินะได้ขอ อนุญาตเจ้าอาวาสออกไปจำพรรษาที่วัดเกาะเทโพ อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท ได้ศึกษาพระธรรมจากหลวงตาคำ ให้รู้ถึงสังขารร่างกายมนุษย์และสัตว์ ล้วนมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย ร่างกายเน่าเปื่อย

พ.ศ.2481 ท่านสอบได้นักธรรมตรี และออกธุดงค์ ฝึกปฏิบัติกัมมัฏฐาน ณ วัดถ้ำตะโกพุทธโสภา อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ก่อนจะเดินธุดงค์ไปในหลายจังหวัด ในภาคเหนือ ใต้ ประเทศพม่า ลาว เขมร อินเดีย

พ.ศ.2485 พระผินะได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่มั่น วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนครหลวงปู่ฝั้น อาจาโรหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน และพระอาจารย์อีกหลายรูปที่ได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์

พ.ศ.2527 หลวงพ่อผินะจาริกธุดงค์ผ่านมาถึงวัดโบราณ บ้านสนมลาวเขาโบถส์ ต.โคกแย้ อ.หนองแค จ.สระบุรี เป็นวัดร้าง แต่มีสถานที่เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรม ชาวบ้านจึงนิมนต์ให้จำพรรษาที่วัดแห่งนี้ ปัจจุบันกลายเป็นวัดสนมลาว และกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการหลวงพ่อผินะเคยปรารภกับคณะศิษยานุศิษย์ ว่า สถานที่แห่งนี้มีความเหมาะสมใช้เป็นที่ละสังขาร และได้มอบหมายให้จัดสร้างเตรียมไว้ล่วงหน้า เป็นอ่างน้ำด้านล่าง ที่ใส่สังขารอยู่ด้านบน อันเป็นปริศนาธรรม หมายถึงการอยู่เหนือพ้นน้ำ ดังเช่น บัวสี่เหล่าที่พระพุทธองค์ได้ทรงกล่าวเทศนาไว้ หรืออีกนัยหนึ่งคือ เหนือการตาย เวียนว่ายตายเกิดสำหรับสุสานที่เก็บสังขารหลวงพ่อผินะ คณะศิษยานุศิษย์ได้จัดสร้างเจดีย์ ลักษณะคล้ายองค์พระปฐมเจดีย์ครอบไว้ สูงประมาณ 10 เมตร ด้านหน้ามีรูปหลวงพ่อผินะ ใต้ฐานเจดีย์เป็นน้ำ มีปลาแหวกว่าย
ทุกวันจะมีสาธุชนที่ศรัทธาเลื่อมใสเดินทางมากราบไหว้สังขารหลวงพ่อผินะที่บรรจุในโลงแก้วอยู่เป็นประจำ


ที่มาของของหาง่ายแต่เอาอยาก
หลวงพ่อผินะท่านปฏิบัติธรรมโดย เจริญอสุภกรรมฐานเป็นอารมณ์อยู่เนืองนิจ ท่านจึงมักจะมีศพคนตายอยู่ในสถานที่ปฏิบัติธรรมของท่ านอยู่เสมอ ศพเหล่านี้เมื่อถึงจุดหนึ่งท่านต้องปลงศพ แทนที่ท่านจะปลงศพโดยการฝังหรือเผาท่านกลับคิดว่าจะห าวิธีให้ดวงวิญญาณเจ้าของศพที่ท่านนำมาเป็นวัตถุเพื่ อเจริญอสุภกรรมฐานได้รับผลบุญสูงสุดนอกเหนือจากบุญที ่ได้รับจากการแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลของท่าน ท่านจึงได้นำเศษทรากของร่างกายที่ผุผังไร้ประโยชน์ต่ อเจ้าของเดิมแล้วนั้นมาทำเป็นเครื่องราง เมื่อผู้นำเครื่องรางไปใช้บูชาติดตัวได้รับการคุ้มคร องช่วยเหลือจากอิทธิอานุภาพแห่งเครื่องราง ก็จะเป็นกา รสร้างบารมีให้แก่ดวงวิญญาณเจ้าของร่างกาย ที่นำมาทำเป็นเครื่องราง และเมื่อผู้ที่นำไปใช้บูชาติดตัวเห็นผลไปทำบุญอุทิศส ่วนกุศลให้วิญญาณของเจ้าของอวัยวะชิ้นส่วน วิญญาณเหล่านั้นก็จะได้รับส่วนบุญกุศลที่อุทิศให้ ได้ประโยชน์ทั้งคนทั้งวิญญาณ คนได้รับการคุ้มครองและช่วยเหลือ วิญญาณได้สร้างบารมีและได้รับส่วนบุญกุศล ไม่ว่าเครื่องรางจะเปลี่ยนมือตกทอดไปอยู่ที่ใคร การคุ้มครองสร้างบารมีและการอุทิศส่วนกุศลตอบแทนก็จะ ดำเนินต่อเนื่องไปตราบเท่าที่ยังมีคนใช้เครื่องรางนั ้นอยู่


 à¸”าวอาถรรพ์ หลวงพ่อผินะ วัดสนมลาว เลี่ยมเดิมๆจากวัด - คลิกที่นี่เพื่อดูรูปภาพใหญ่

ประสบการณ์
เรื่องแรก

ความศักดิ์สิทธิของดาวปาฏิหารย์ นี้เพื่อนผมประจักษ์ด วยตนเองหลายครั้ง ครั้งที่หวาดเสียวมากๆก็คือครั้งที่เขาต้องไปราชการท ี่ภูเก็ต เขาขับรถออกจากกรุงเทพไปพักรับประทานอาหารเย็นที่ชุมพร จะขับรถต่อไปภูเก็ตก็มีอาการปวดไหล่เหมือนโดนเหยียบ พอลงจากรถก็หาย แต่พอขึ้นรถจะขับรถก็ปวดไหล่จนขยับไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจนอนค้างคืนที่ชุมพร วันรุ่งขึ้นขับรถไปภูเก็ต ระหว่างทางมีเพื่อนโทรฯมาบอกว่ามีคลื่นใหญ่ซัดเข้าภู เก็ต เขาไม่ได้เอะใจคิดว่ามีพายุเข้า แต่พอไปถึงภูเก็ตจะเข้าที่พักก็ได้พบว่าที่พักพังหมด คนตายเยอะแยะเพราะคลื่นลูกนั้นมันคือซึนามิ



เรื่องที่สอง

ผมได้จุดธูปต่อรูปหลวงพ่อผินะ ขอบารมีท่านให้ลูกค้ามาใช้บริการร้านผม 10 คน (เปิดร้านซักรีดหารายได้เสริม) ถ้าหากผมสมหวังแล้วจะบูชาแก้วตา และถวายสังฆทานให้ท่าน ปรากฎว่าวันรุ่งขึ้นช่วงเที่ยง มีลูกค้าเข้าร้านของผมถึง คน ผมดีใจมาก ผมลองเช็ครายชื่อลูกค้าปรากฏว่ามีรายชื่อของลูกค้าค้างจากเมื่อวานมา คน เท่ากับมีลูกค้าเข้าร้านจริง ๆ เพียง คน ผมจึงขอบารมีหลวงพ่อผินะ ขอลูกค้าอีก คน ให้ครบ 10 คน ปรากฎว่า เย็นวันนั้น มีลูกค้าเข้าร้านอีก 2 คน จนครบ 10 คน ผมดีใจมาก เพราะตั้งแต่บูชาพระเครื่องมา ไม่เคยเห็นอะไร ที่ได้ผลไวอย่างนี้เลยในความเป็นจริง ร้านค้าของผมตามสถิติแล้ว จะมีลูกค้าเข้าร้านเฉลี่ยวันละ คน ให้ตายอย่างไรก็ไม่มีทางถึง 10 คน สุดยอดมากครับ และพระเครื่องตามที่ผมได้บูชานั้น ผมลองขอบารมีจากท่านสลับกันไปแต่ละองค์ ว่าวันนี้ขอเงินเข้าร้าน 300 บาทขึ้นไปบ้าง ขอลูกค้าเข้าร้าน คนขึ้นไปบ้างก็ได้ผลตามที่ขอจริง ๆ ขอยืนยันว่าผมได้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่กล่าวมา เพียงระยะเวลา อาทิตย์ได้ผลดีขึ้นทันตาเห็นเลย ก็ต้องขอขอบคุณ ทีมงานพุทธามหาเวท และ ท่าน น.นาคราช ที่หาสิ่งดีๆถ้าอยากได้จริง ๆ ก็เข้าไปในเว็บไซด์ http://www.google.co.th/ พิมพ์คำว่า ผินะ” จะมีวัตถุมงคล ดาวอาถรรพ์ของหลวงพ่อมากมาย หลายรุ่น มีราคาตั้งแต่ 500 ถึง หลักพันครับและจนบัดนี้ ( ตั้งแต่เลือก สว. ถึง มิ.ย.49) ลูกค้าเข้าร้านผมเยอะมาก ทั้ง ๆ ที่ร้านผมเปิดอยู่กลางซอย

แค่ปากซอย ก็มีร้านซัก-รีด ดักหัวท้ายแล้ว และ ท้ายซอย ก็มีร้าน ซัก-รีด ดักอยุ่ตั้ง 4 – 5 ร้านแต่ลูกค้ายังมาใช้บริการร้านผมอย่างมากมาย ร้านของผมก็ไม่ได้ใหญ่โตมากมายอะไร ร้านเล็ก ๆ ธรรมดา จนขณะนี้ที่ร้านเริ่มรีดผ้าไม่ทัน ต้องแบ่งไปให้เพื่อนๆที่เปิดร้านซักรีด ช่วยรีด ในบางวันผมลองตั้งจิตอธิษฐานขอเงินเข้าร้าน 500 บาทขึ้นไป ก็ได้จริงๆ เมื่อวานลองตั้งจิตขอเงิน 700 บาทขึ้นไป ก็ได้จริงๆ วันศุกร์นี้ผมก็จะเดินทางไปกราบหลวงพ่อผินะที่วัดครับ ไปตามคำมั่นสัญญาเพราะบนไว้ว่าขอให้มีรายได้เข้าร้านเกินหนึ่งหมื่นขึ้นไป หลังจากเดือนที่ผ่านๆมา ตั้งแต่เปิดร้าน รายได้เข้าร้าน แค่ ห้าพัน ถึง หกพัน แต่หลังจากผมที่ขอบารมีหลวงพ่อผินะ ผมก็ได้ดังใจหวังจริง ๆ


เรื่องที่สาม
มีท่านหนึ่งบูชาปลัดขิกของหลวงพ่อท่านเล่า ให้ฟังว่าสมัยหนุ่มๆ เขาชอบและถูกใจสาวสวยข้างร้าน แต่ไม่กล้าจีบ กลัวเขาไม่เล่นด้วย กลัวเสียฟอร์ม จึงใช้คุณปลัด ตามที่หลวงพ่อสอนมา คือ ก่อนไปพบหน้าผู้หญิงคนนี้ เขาจะว่าคาถากำกับก่อนตามเคล็ด แล้วเอาปลัดขิกพกติดตัว โดยใส่ในกระเป๋ากางเกง แล้วเดินไปหาสาวคนนั้น พอเจอหน้าก็ให้อธิษฐานในใจอีกว่า
พ่อปลัด ผู้หญิงคนนี้ เคยเป็นเมียพ่อใช่ไหมแล้วให้ ตอบเองว่าใช่ จากนั้นให้ทำการทักทายพูดคุยกับเขาแบบธรรมดา พอตกกลางคืน ให้จุดธูปบอกหลวงพ่อ เอาปลัดขิกมากำไว้ในมือด้วยมือซ้าย เอาน้ำหอมมาประพรม แล้วเอามือขวาถูที่หัว พร้อมว่าคาถา และนึกถึงหน้าผู้หญิงคนนั้นไปด้วย แล้วทำการบอกกล่าว ให้คุณปลัดขิกไปหาผู้หญิงคนนั้น แทนตัวเรา (ตอนว่าคาถาและนึกหน้าผู้หญิงคนนั้น ต้องตั้งจิตนิ่งๆ) พอตอนเช้า ผู้หญิงคนนั้นเห็นหน้าเขา ทำหน้าแดงกล่ำและยิ้มให้เขา เขาจึงซื้อน้ำไปให้กิน แก้ว แต่ก่อนไป เอาคุณปลัดจิ้มไปที่น้ำกิน แล้วอธิษฐานอีกที เขาเล่าว่า ทุกวันนี้ผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาของเขาแล้ว การที่เราใช้คุณปลัดไปแทนตัวเรา ตกตอนกลางคืนผู้หญิงคนนั้นจะฝันว่า เรามีอะไรกับเขา แบบเหมือนจริง เรื่องนี้เขาหลอกถามภรรยา ตอนหลัง จึงได้รู้ เขาบอกว่า ตอนนี้ในตัวเขา มีคุณปลัด(เก่งกว่านายอำเภอ) เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนตัวภรรยา เขาให้แขวนดวงดาวอันเดียว ช่วยกันค้าขาย ก็ดีมาตลอด


หุ่นพยนต์อันดับ1 ของแผ่นดิน หลวงพ่อผาด วัดบ้านกรวด

หุ่นพยนต์อันดับ1 ของแผ่นดิน หลวงพ่อผาด วัดบ้านกรวด   สร้างเมื่อปี 2551 ทำมาจากเนื้อผงพรายกุมาร ปลุกเสกโดย หลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวด เมื่อวันท...