วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2564

อาแป๊ะโรงสีผู้เขียนยันต์ฟ้าประทาน





อาแป๊ะโรงสีผู้เขียนยันต์ฟ้าประทาน เป็นหนึ่งในผู้วิเศษชาวจีนที่มีผู้คนนับถือมากที่สุดท่านหนึ่งในยุคปัจจุบันโดยท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นเทพเซียนที่ทำหน้าที่โปรดมนุษย์ในอดีตเจ้าสัวใหญ่ระดับประเทศก็เคยมาขอพึ่งบารมีจนกิจการรุ่งเรืองร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี แม้ปัจจุบันนี้ผู้ที่มาพึ่งบารมีท่านก็ยังได้อานิสงค์ถูกหวยบ้าง ได้รับความเจริญทางธุกิจบ้างอย่างน่าอัศจรรย์




ความหมายยันต์ฟ้าประทานพรอาแป๊ะโรงสี คืออะไร ยันต์ฟ้าประทานพรนี้เป็นยันต์ประจำตัวของท่านอาจารย์เซียนแปะโรงสี กล่าวกันว่าผู้ใดพกพาหรือติดตั้งอยู่ในสถานที่ใดจะพบแต่ความเจริญรุ่งเรืองนำพาโชคลาภเงินทอง รวมถึงสามารถใช้แก้ฮวงจุ้ยเสริมดวงนอกจากนี้ยังขึ้นชื่อทางด้านกันไฟและสิ่งไม่ดีทุกชนิดความหมายของผ้ายันต์อาแปะโรงสี คำว่า กา คือ จำนวนผ้ายันต์1 ผืน

1 กา พกพาติดตัวปรับฮวงจุ้ยชีวิต บุกเบิกฟันฝ่า สร้างเนื้อสร้างตัว ก่อรากฐานชีวิต เอาติดที่ประตูบ้าน

2 ข้างแบบกุ้ยนั่ง รับแรงประทะ โดยมีกาใหญ่ ๆ เป็นประธานในบ้าน เช่น 5 6 7 8 9 10 15 18 ในบ้านเสริมพลังให้ตัวบ้าน

2 กา ร้านเสริมสวย เหมือน ๖ กา เป็นเสน่ห์ ธาตุน้ำ ความสวยงาม

3 กา ใช่ประกอบกับ 8 กาสำหรับที่ที่มีอาถรรพน์เยอะ เป็นการต่อสู้ข่มวิญญาณ เจ้าที่เจ้าทาง

4 กา สำหรับสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม ภัตตาคาร รีสอร์ท บริษัทนำเที่ยว ประกอบกับ 9 กา ยอดเยี่ยมครับ เป็นเรื่องการสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ โรงแรมก็ใช้ได้

5 กา สำนักติว ติวเตอร์ โรงเรียนเอกชนที่ก่อตั้งใหม่ ๆ ยังไม่ดัง ชื่อยังไม่ติดชาร์ต ร้านขายสังฆภัณฑ์ ร้านขายหนังสือ เครื่องเขียน

6 กา เหมือน 2 กา โรงแรม อาบอบนวด สถานบันเทิงเริงรมย์ ร้านเสริมสวย ร้านขายของสวย ๆ งาม กิฟต์ชอป ร้านขายดอกไม้ จัดดอกไม้

7 กา สำหรับฟื้นฟูกิจการ. คลีนิค ร้านทำฟัน ขายอุปกรณ์การแพทย์ วัสดุก่อสร้าง บ.ก่อสร้างทาง

8 กา ร้านเหล้า ร้านอาหาร สำหรับนายทหาร นายตำรวจ ข้าราชการตั้งไว้ในห้องทำงานหลังโต๊ะบนหัวเก้าอี้ที่เรานั่ง มีบารมีลูกน้องเกรงขาม หัวหน้า ผู้จัดการ ดีมาก เคล็ดลับอย่าไปบอกใครมาก

9 กา ขายเครื่องสังฆทาน มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า …

10 กา และ 18 กา เสริมพลังให้บ้าน เป็นการเสริมเติมเต็ม full ภาษาบาลีว่า ปุรณ แปลเป็นไทยว่าครบถ้วนบริบูรณ์ ใช้ติดเป็นปรธานในบ้าน ๆ นั่นจะบริบูรณ์มั่งคั่ง ทรัพย์สินเรืองรอง เงินทองเนืองนองไหลมาไม่ขาดสายดุจสายน้ำในแม่น้ำลำธารที่ไม่มีวันเหือดแห้ง สุขภาพแข็งแรง ภูติผีปีศาจสิ่งอาถรรพน์ไม่มากร้ำกราย โรคภัยไม่เบียดเบียน สมบูรณ์มั่งคั่งดังคำประกาศิตว่าฟ้าประทานพร


วันจันทร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2564

เคล็ดเสริมดวงให้โชคดี



เป็นเคล็ดเสริมโชคของไทยเรา อันนี้ได้ลองแล้ว ดีมาก ทำไม่ยาก ไม่ต้องเสียเงิน จนเกินเหตุ คนเรานั้นดวงชะตาอาจอ่อนกำลังลงเราจึงมักพบเรื่องยุ่งยากวุ่นวายบ่อยกว่าปกติ ลดอุปสรรค ขจัดเคราะห์ภัย เรียกโชคดี สร้างวันสดใส ด้วยเคล็ดเสริมดวงชะตาที่เป็นมงคล

 

1กระเป๋าสตางค์ ต้องตุงก่อน

 เปลี่ยนกระเป๋าสตางค์ใบใหม่เสมอในวันขึ้นปีใหม่ หรือ ถ้าใบเก่าทุกเดิน ใส่เงินจำนวน 900 หรือ  9,000 ในกระเป๋าไว้สักวัน หนึ่งวันหนึ่งคืนเต็ม ๆ เพื่อเอาเคล็ดเอาฤกษ์ เพื่อให้กระเป๋าใบนั้นเป็นกระเป๋าที่ดี เรียกเงินเรียกทองเข้ากระเป๋าได้มาก มีเก็บมากกว่าจะต้องควักออก ไป และทุกครั้งที่รับเงินสดเข้ามา ควรนำเงินมาใส่กระเป๋าเอาไว้ก่อนบางคนอาจจะยังคงปล่อยเงินไว้ในซองแล้วก็นำไปฝากธนาคาร ซึ่งถ้าจะเอาเคล็ดเรียกโชคกันจริง ๆ ตามความเชื่อของคนเฒ่าคนแก่ก็ควรเอาเงินเก็บใส่กระเป๋าสตางค์ไว้ก่อน

 

 

 

2พระสิวลี  ควรมีไว้พกพา หรือ หาโอกาสไปกราบไหว้พระสีวลีที่วัดใดก็ได้ ในท้องที่ที่อาศัยพระสีวลีเป็นเอตทัคคาโชคลาภ ท่านเป็น 1 ใน 80 ศิษย์เอกของพระพุทธเจ้า เมื่อไปกราบไหว้ขอพรจากพระสีวลีชีวิตจะมีโชคดีขึ้น >>>และมีความราบรื่นก้าวหน้า มีเงินมีทองเพิ่มพูนมากขึ้น

 

3ยักษ์และราหู  ไม่ควรมีรูปภาพหรือรูปปั้นยักษ์และราหูประดับตกแต่งในบ้าน เพราะจะทำให้คนในบ้านทะเลาะเบาะแว้งกัน มีแต่เรื่องร้อน ๆ >>>ขาดโชคขาดลาภ พลังของวิญญาน ยกเว้น แบบพกพาที่ ผ่านการปลุกเสกแล้ว แต่ไม่ห้ามเนื่องจากว่า นอกบ้าน ที่ทำงาน อาจมี ลดเพลมพัดนำพลังลบเข้าหาเรา

 

อย่านำโปสเตอร์, รูปภาพหนังผี,คนบาดเจ็บจากนิตยสารที่มีแต่ความน่ากลัวมาติดผนังบ้านหรือรูปคนตายมาติดประดับไว้ที่ห้อง(ยกเว้นภาพถ่ายบุคคลในครอบครัวที่เสียชีวิตไปแล้ว)หลีกเลี่ยงภาพน่ากลัว หรือดูดุร้ายเพราะล้วนเป็นแหล่งเรียกคลื่นพลังงานที่ไม่เป็นมงคลจะทำให้โชคลาภหด หาย คนในบ้านจะมี แต่เรื่องร้าย ๆ เกิดขึ้น เกิดอุบัติเหตุ การนำภาพมาติดผนังประดับบ้านควรเลือกภาพที่ดูสวยงาม

 

4เตียงนอน อย่าตั้งเตียงนอนโดยเอาหัวเตียงหันไปชนกับผนังห้องน้ำ เพราะจะทำให้เสื่อมโชค อับโชค อย่าตั้งเตียงนอนโดยหันปลายเตียงเล็งตรงกับประตูทางเข้าพอดี เพราะจะทำให้ฝันร้ายและอับโชค

 

5สุนัข แมวจรจัด  แบ่งอาหารและน้ำให้แก่สุนัข หรือแมวจรจัดที่หิวโหยบ้าง ในวันฝนตกก็อนุญาตให้จรจัดเข้ามาหลบฝนในชายคาบ้าน การทำบุญทำทานกับพวกนี้ นั้นให้อานิสงส์ผลบุญแก่ตัวเราได้อย่างมหาศาล

 

 6ครัว   ดูแลปัดกวาดเช็ดถูและจัดข้าวของเครื่องใช้ในครัวให้สะอาดอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้ครัวสกปรก เพราะครัวเป็นขุมพลังของบ้าน บ้านที่ปล่อยให้ครัวสกปรกจะอับโชค เงินทองหามาได้ก็ต้องจ่ายออกไป เจริญรุ่งเรืองช้านัก

 

7ผ้าเช็ดหน้า อย่าให้ของขวัญคนรัก หรือเพื่อนสนิท เป็นผ้าเช็ดหน้า เพราะถือว่าเป็นลางไม่ดี ถือเป็นของขวัญอับโชค มอบให้กันแล้วจะมีเรื่องต้องพลัดพรากจากกัน หรือมีเรื่องต้องเมินหมางห่างเหินกันไป

 

8กระจก   ขัดถูกระจกในบ้านให้สะอาดใสอยู่เสมอ ถ้าปล่อยให้กระจกขุ่นมัวเป็นประจำ >>>ดวงชะตาของคนในบ้านจะหม่นหมองทำอะไรไม่ขึ้น

 

 9วันบริสุทธิ์  วันที่ควรงดเว้นการมีเพศสัมพันธ์กับคู่รัก คือวันโกน วันพระ วันเกิดและวันเข้าพรรษา ตามธรรมเนียม โบราณนิยมปฏิบัติกันเช่นนี้ เพื่อให้เทวดาคุ้มครองรักษาตลอดไป

 

 10 เหรียญนำโชค เมื่อเจอเงินตกอยู่ตามทางเดิน แม้จะเป็นเพียงเหรียญบาทก็ให้เก็บเอาไว้ ให้ถือเสมือนเป็นเหรียญนำโชค การเดินผ่านเลยไป เพราะเห็นว่าเป็นเพียงเหรียญบาท เหรียญสลึงนั้น ถือเป็นการดูถูกเงินทองไม่ เห็นคุณค่าของเงินคนเฒ่าคนแก่เชื่อกันว่ามันจะทำให้คุณอับโชคทั้งวันหรือในช่วง 3-7 วันนั้น

 

 11แหวนเสริมดวง เลือกสวมแหวนที่ถูกโฉลกกับเดือนเกิด

 หรือวันเกิดเพื่อเสริมโชคดีให้ชีวิตถ้าอยากเสริมดวงการเงิน - ควรสวมแหวนทอง แหวนเงินแหวนหยกและแหวนหัวพลอยสีที่ถูกโฉลกถ้าอยากเสริมดวงความรัก ให้สวมแหวนรูปหัวใจ รูปดาว เลือกแหวนเพชร หรือเทอร์ควอยส์ก็ได้ ส่วนแหวนลูกปัดและหินสีต่าง ๆ จะช่วยเสริมดวงเสน่ห์  การสวมแหวน สวมแหวนนิ้วกลางขวา - เสริมดวงการเงินและบารมี สวมแหวนนิ้วนาง นิ้วก้อย -ความรัก

 

12เสริมเสน่ห์ และเสริมดวงความรัก ทำบุญโลงศพ ไปที่มูลนิธิใกล้บ้าน ทำบุญบริจาคเงินร่วมกันซื้อโลงศพให้ศพอนาถาที่ไร้ญาติ การทำบุญโลงศพจะช่วยเสริมดวงชะตาให้กล้าแข็ง เหมาะสำหรับช่วงดวงอ่อน และมีทุกข์มีเคราะห์

 

 13พระพรหมศักดิ์สิทธิ์ หาโอกาสไปกราบไหว้พระพรหมสักครั้ง ถ้าอยู่ที่กรุงเทพก็ไปไหว้ที่หัวมุมสี่แยกราชประสงค์ โรงแรมเอราวัณก็ได้ หรือที่ศาลพระพรหมแห่งใดก็ได้ทั้งนั้น พระพรหมเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ที่กล่าวขวัญกันมากว่าบนบานอธิษฐานขออะไรมักได้ดังปรารถนา ด้วยว่าท่านเป็นเทพแห่งความสำเร็จนั่นเอง

 

14หิ้งพระ หรือหิ้งบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเทพต่าง ๆหรือ ร.5, ในหลวงของเรา เมื่อตั้งหิ้ง บูชาแล้วจะต้องหมั่นดูแลรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ หมั่นเปลี่ยนดอกไม้ พวงมาลัย ถวายน้ำสะอาด ถ้าปล่อยให้หิ้งสกปรกมีแต่ฝุ่นจับเต็มไปหมด บ้านนั้นจะมีแต่ความเสื่อมถอย โชคลาภหดหาย ยากที่จะเจริญรุ่งเรือง ไข่ และส้ม ในบ้านเรือนควรมีไข่และมีส้มไว้ในตะกร้าเสมออย่าให้ขาด เพื่อเรียกความสมบูรณ์พูนสุขเข้าบ้าน ทำให้ชีวิตอยู่ดีมีสุขตลอดไป ไข่และส้มเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และความโชคดี


สีผึ้งหลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง แค่หัวไม้ขีดหากันจนพลิกแผ่นดิน!!




หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง หรือพระครูอรรถโกศล เป็นคนระยองโดยกำเนิด เกิดที่บ้านนาตาขวัญ ต. นาตาขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เมื่อวันศุกร์ เดือนหก ปีฉลู ตรงกับ พ.ศ. ๒๔๒๐ ท่านเป็นเพื่อนสนิทกับหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ วิชาของทั้งสองท่าน ว่ากันว่ากินกันไม่ลง ประเด็นสำคัญคือวิชาของหลวงปู่ทาบที่เลื่องลือว่าสุดยอดคือวิชาสีผึ้งเขียว การขอรับสีผึ้งจากหลวงพ่อทาบในสมัยก่อน สำหรับผู้ที่จะมาขอสีผึ้งเขียวของท่านนั้น กว่าจะได้ก็แสนจะลำบากยากเย็น เล่ากันว่าผู้ต้องการจะได้สีผึ้งเขียวของท่านจะต้องมานอนค้างคืนกันที่วัดหลาย ๆ คืน และหลาย ๆ ครั้ง จนหลวงพ่อทาบเห็นความมานะอดทนว่า ต้องการได้จริง ๆ ท่านจึงจะให้ แต่ท่านจะหยิบให้เพียงเท่าหัวไม้ขีดไฟเท่านั้น

 

 สีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบเมื่อใครได้มาแล้วเหมือนกับได้ของวิเศษที่เปี่ยมไปด้วยส่วนผสมแห่งเมตตามหานิยม คนเล่นของในสมัยนั้นจึงนำสีผึ้งหลวงพ่อทาบที่ได้มาเพียงแค่หัวไม้ขีดไฟมาเลี่ยมทองหุ้มใส่สายสร้อยหรือแขวนติดตัว แต่ก่อนจะมอบสีผึ้งเขียวให้แก่ผู้ใด หลวงพ่อทาบจะสั่งสอนวิธีใช้ให้ สำหรับเรื่องผู้หญิงนั้น ถ้าจะใช้สีผึ้งนี่ก็ขอให้ใช้เมื่อจำเป็นจริง ๆ ได้เขาสมใจแล้วก็อย่าไปทิ้งไปขว้าง มิเช่นนั้น จะเกิดวิบัตินักเลงรุ่นเก่าชาวระยองยอมรับว่าสีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบนั้นยอดเยี่ยมจริง ๆ ไม่เคยทำให้ใครผิดหวังโดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง

 

 ท่านผู้เฒ่าท่านหนึ่งใน ต.ตาสิทธิ์ ติดกับวัดหลวงปู่ทิมเล่าให้ผู้เขียนฟังว่าเมื่อสมัยหนุ่ม ๆ ข้าก็ได้อาศัยสีผึ้งเขียว ของหลวงพ่อทาบนี่แหละ จึงได้แม่อ้ายยอด มาจนทุกวันนี้ แม่อ้ายยอดเมื่อสาวๆ มันสวยอย่าบอกใครเชียว หนุ่ม ๆ มาจีบกันหัวกระไดแทบไม่แห้ง แต่ลุง (ตัวคนเล่า) มันพูดจาไม่เก่ง รูปก็ไม่หล่อ แรกๆแม่อ้ายยอดไม่เคยมองลุงเลย ความที่อยากเอาชนะไอ้พวกหนุ่มรุ่นเดียวกัน ลุงจึงดั้นต้นไปขอสีผึ้งเขียวหลวงพ่อทาบ ไปก็หลายครั้งหลายหนอยู่จนท่านจำได้และเห็นมาบ่อย ๆ หลวงพ่อทาบท่านเลยสงสารควักให้มาหัวไม้ขีดหนึ่งสั่งว่าเพียงเอาห่อติดตัว เวลาจะใช้กับผู้หญิงคนใดก็เพียงแต่ทำใจให้นึกเห็นใบหน้าเขาและเข้าไปหาเถอะไม่ช้าก็สำเร็จ และก็ได้ผลจริงๆไม่นานแม่อ้ายยอดเกิดสงสารเห็นใจลุง ทั้งที่ก่อนนั้นเขาไม่เคยชายตามองลุงเลย พวกหนุ่มบ้านอื่นงงเป็นไก่ตาแตกท่านผู้เฒ่าเล่าเสริมต่อไปว่า หลังจากได้แม่อ้ายยอดมาเป็นเมียและอยู่กับมาจนบัดนี้แล้ว ลุงเคยถามเขาว่า เพราะเหตุใดจึงเกิดมารักลุง ทั้งๆ ที่แต่แรกไม่เคยสนใจลุงเลย แม่อ้ายยอดบอกกับลุงว่าเป็นเพราะอะไรไม่รู้ วันไหนถ้าไม่เห็นหน้าลุงใจคอมันหงุดหงิด ร้อนรุ่ม พอได้เห็นหน้าลุงแล้วสบายใจ และไม่ช้าลุงก็ชวนมันมาอยู่กับลุงเสียเลย

 

 ผมได้ถามลุงผู้เฒ่าว่า แล้วสีผึ้งนั้นอยู่ไหน? ขอผมดูหน่อย ท่านผู้เฒ่าบอกว่า เมื่อลุงได้เมียแล้วก็ไม่ได้ใช้อีกเลย เพราะหลวงพ่อท่านสั่งนักสั่งหนาว่าถ้าใช้กับผู้หญิงแล้วต้องเลี้ยงเขาเป็นลูกเมีย ห้ามทิ้งขว้าง ลุงได้แม่อ้ายยอดมาครองคนเดียวก็นับว่าพอใจแล้ว เลยหุ้มทองเก็บไว้ จนอ้ายยอดลูกหัวปีของลุงมันเป็นหนุ่มแล้ว ลุงจึงมอบให้มัน ก็ดูซิอ้ายยอดลูกชายลุงมีเมียตั้ง ๓ คน และอยู่บ้านเดียวกันทั้งนั้น หลานลุงมีเป็นพรวน มีเมียมากมันก็ไม่ดีหรอกหลาน หาเท่าไรไม่พอเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย แต่ก็ดีไปอย่าง อ้ายยอดมันได้เขาแล้วมันก็ไม่ทิ้งไม่ขว้าง เลี้ยงเป็นลูกเป็นเมียทุกคน อ้ายยอดลูกลุงน่ะ มันไม่เท่าไหร่หรอก มีเพียงแค่ ๓ คน เท่านั้น แต่ลูกศิษย์หลวงพ่อทาบที่เคยบวชอยู่กับท่านคนหนึ่งซิ เดี๋ยวนี้ย้ายไปอยู่จันทบุรี มีเมียอยู่บ้านเดียวกันถึง ๖ คน ทุกคนปรองดองกันดี ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันเลย แต่ลูกเป็นกระบุง แต่เขาก็มีฐานะดีนะ เรื่องสีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบ ถ้าใช้เรื่องผู้หญิงรับรองได้เยี่ยมจริง ๆ

 

ท่านพระอาจารย์เสียน มนูญโญ เจ้าอาวาสวัดกระบกขึ้นผึ้ง ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆ ของหลวงทาบ ตลอดจน คุณปถม อาจสาคร อดีตสหกรณ์อำเภอบ้านค่าย และคุณประชา ตรีพาสัย เพื่อนผู้เขียนซึ่งจูงใจให้ผู้เขียนไปรู้จักกับหลวงปู่ทิมจนได้สร้างพระชุดชินบัญชรอันเป็นที่รู้จักกันทุกวันนี้ เคยเล่าเรื่องอานุภาพของสีผึ้งเขียวหลวงพ่อทาบ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันแพร่หลายทั่วจังหวัดระยองให้ฟังว่าเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๓ จ.ระยอง ได้จัดให้มีการประกวดนางสาวระยองขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อคัดคนส่งไปประกวดนางสาวไทยที่กรุงเทพฯ ในงานรัฐธรรมนูญที่วังสราญรมย์ อ. บ้านค่าย ก็สรรหาสาวงามส่งเข้าชิงชัยตำแหน่งนางสาวระยอง เหมือนกับอำเภออื่น ๆ เช่นกัน เมื่อได้สาวงามชาวอำเภอบ้านค่ายแล้ว ทางอำเภอก็นำสาวงามผู้นั้นมาขัดสีฉวีวรรณแล้วสอนกิริยามารยาทจนเป็นที่เรียบร้อย พอใกล้วันประกวดนางงามระยอง เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นไปได้ก็เกิดขึ้น สาวงามซึ่งจะเป็นตัวแทนสาวบ้านค่ายขึ้นเวทีประกวด เกิดสิวเห่อขึ้นเต็มหน้า เป็นที่ตกอกตกใจของคณะกรรมการอำเภอบ้านค่ายไปตามๆ กัน จะหาคนใหม่ก็ไม่ทัน ทุกคนต่างก็จนปัญญาไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไร แต่ถึงอย่างไรก็ต้องส่งสาวผู้นี้เข้าประกวดอยู่ดี เพราะเตรียมการไว้แล้ว แต่โอกาสที่สาวบ้านค่ายจะเป็นนางงามระยองคงหมดหวังแน่ ก่อนถึงวันประกวดคณะกรรมการอำเภอบ้านค่ายทนเสียงอ้อนวอนของผู้ปกครองเด็กไม่ได้ จึงยอมให้ผู้ปกครองเด็กสาวคนนั้นนำไปหาหลวงพ่อทาบ หลวงพ่อทาบท่านทำน้ำมนต์ให้อาบ แล้วให้สีผึ้งเขียวมาหนึ่งหัวไม้ขีดไฟ และยังปลุกเสกแป้งผัดหน้าให้อีกหนึ่งห่อ ทั้งกำชับให้เอาสีผึ้งติดตัวขึ้นไปบนเวทีประกวด และเวลาประกวดก็ให้ใช้แป้งที่ท่านปลุกเสกผัดหน้าขึ้นไปเดินบนเวทีทุกครั้ง ผลการตัดสินสาวงามระยองปี พ.ศ. ๒๕๐๓ นั้น ปรากฏว่าสาวน้อย อ. บ้านค่าย ได้ตำแหน่งนางสาวระยอง ทั้งๆ ที่ใบหน้าสิวขึ้นเยอะ ท่ามกลางความดีอกดีใจของชาวบ้านค่าย และความงุนงงของชาวอำเภออื่น ๆ และในปีต่อ ๆ มาอีก ๒-๓ ปี ชาวอำเภอบ้านค่ายก็ได้นางสาวระยองติดต่อกัน และนางงามบ้านค่ายทุกคนต่างไปขอให้หลวงพ่อทาบรดน้ำมนต์ปิดนะหน้าทอง ได้สีผึ้งเขียวติดตัวและปลุกเสกแป้งผัดหน้าให้เช่นกัน

อาจารย์ปถม อาจสาคร เล่าว่า แป้งผัดหน้านั้น หลวงพ่อทาบท่านลงนะนวลจันทร์ และตั้งแต่นั้นมาชื่อเสียงในด้านเมตตามหานิยมของหลวงพ่อทาบ ก็ยิ่งโด่งดังขึ้น จนคนระยองถึงกับผูกวลียกย่องไว้ว่า “อิทธิฤทธิ์หลวงพ่อเพ่ง เมตตามหานิยมหลวงพ่อทาบ อาคมหลวงพ่อทิม”

 

สีผึ้งเขียวหลวงพ่อทาบมีคาถาใช้ดังนี้

""จิตติ มิตติ อระระหัง ปิยังมะมะ"" ใช้ภาวนาเป็นเมตตามหานิยม และใช้ภาวนาเวลาใช้สีผึ้งเขียวทาปาก เมื่อใช้นิ้วมือแตะสีผึ้งเขียวแล้วให้ว่า นะมโม 3 จบ ก่อน แล้วภาวนาคาถา พร้อมกับทาสีผึ้งเขียวที่ริมปาก จนทาปากเสร็จ

การใช้นิ้วมือแตะสีผึ้งเขียวทาปากนั้น ให้ใช้ดังนี้..

1.เมื่อจะไปหาผู้ใหญ่ หรือผู้มียศ ให้ใช้นิ้วหัวแม่มือแตะสีผึ้งเขียวทาปาก

2.เมื่อจะไปหาคนรุ่นราวคราวเดียวกัน หรือคนรับใช้ ให้ใช้นิ้วชี้แตะสีผึ้งเขียวทาปาก

3.เมื่อจะไปหาผู้สูงอายุ หรือแม่ม่าย ให้ใช้นิ้วกลางแตะสีผึ้งเขียวทาปาก

4.เมื่อจะไปหาสาวๆหนุ่มๆให้ใช้นิ้วนางแตะสีผึ้งเขียวทาปาก

5.เมื่อจะไปหาสาวน้อย หรือคนที่มีอายุน้อยกว่า ให้ใช้นิ้วก้อยแตะสีผึ้งเขียวทางปาก...

หากใช้ขี้ผึ้งอารธนาติดตัว นะโม 3 จบ ""อุกาสะ สัมปะติ จิตติ มิตติ อรหัง""


หุ่นพยนต์อันดับ1 ของแผ่นดิน หลวงพ่อผาด วัดบ้านกรวด

หุ่นพยนต์อันดับ1 ของแผ่นดิน หลวงพ่อผาด วัดบ้านกรวด   สร้างเมื่อปี 2551 ทำมาจากเนื้อผงพรายกุมาร ปลุกเสกโดย หลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวด เมื่อวันท...