วันพุธที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

เครื่องรางหาคู่

 






ตะกรุดนางรับ


ตามตำนาน นางรับคือนางอัปษร เทวีผู้เก็บดอกไม้ถวายองค์พระอิศวร ในตำราพระเวทย์กล่าวไว้ นางอัปษร เป็นนางฟ้าผู้มีความงามเป็นเลิศ เป็นที่ใฝ่ฝันของเหล่าเทพบุตร ใครเห็นนางอัปษรต้องเกิดจิตเสน่ห์หาต่อนาง ถึงขนาดกินไม่ได้นอนไม่หลับ เห็นแต่ใบหน้าของนางอันเป็นที่รัก

ผู้ใดบูชาตะกรุดนางรับต่างพูดเป็นเสียงเดียวว่า หนุ่มติดตรึม ไปที่ใดมีแต่คนมองและยิ้มให้ บูชาแล้วเงินเข้าไม่ขาด รับแล้วรับอีกโดยเฉพาะอาเสี่ยสายเปย์จัดให้ บูชาแล้วมีแต่เสน่ห์มีแต่คนรุมจีบ บูชาแล้วแฟนรักมากกว่าเดิม บูชาแล้วรับโชคมากขึ้น ถูกหวยบ่อยขึ้น บูชาแล้วค้าขายดียิ่งขึ้น ปังมากขึ้น เฮงแล้วเฮงอีก บูชาแล้วติดต่องานราบรื่น เจ้านายรักและเอ็นดู พูดง่ายๆ รับทั้งเงิน รับทั้งความรัก





นางพิมพาแต่งงานหลวงพ่อท้วม

เป็นสุดยอดแห่งเครื่องรางด้านเมตตาสำหรับสาวๆ  ใช้ไปในทางเป็นเถ้าแก่ไปสู่ขอหญิงได้อีกด้วยในอดีตมีเพียงหลวงพ่อสององค์ ที่ออกเครื่องรางชนิดนี้ออกมา คือหลวงพ่อพัฒน์ วัดแสนเกษม มินบุรี หลวงพ่อท้วม วัดเขาโบถส์ โดยเฉพาะ จนเป็นตำนานเล่าขานจนทุกวันนี้






"เสน่ห์นางจันทร์ " 

เป็นเทพแห่งเมมตามหานิยมพลัง แห่งการดึงดูด จะดึง+โชว์ความเป็นหญิงออกมา มีอานุภาพแสดงถึงความเสน่หาชวนฝัน พลังอานุภาพของท่าน สามารถดึงดูดชายในฝัน เป็นเครื่องรางที่ผู้หญิงเพศที่สามก็ใช้ได้ กลิ่นอายของเสน่ห์นางจันทร์ เสมือนสตรีที่สวยสดงดงามดั่งเทพธิดา เสมือนพลังงานแม่เหล็กที่สามารถดึงดูดผู้ชายให้เข้ามาหาเรา รักเรา ชอบเรา หลงเรา  ตามด้วยคาถาผูกจิตหลายๆรอบ สามีรักสามีหลง หากเป็นชายใครมีไว้ต้องมีสาวมาหาถึงที่ วัตถุมงคลแบบนี้หาเกจิใดๆปลุกเสกได้ยากยิ่ง และการจัดสร้างได้ระดมมวลสารที่สำคัญจากป่า และต้องกำหนดฤกษ์ยามในการปลุกเสก

มวลสารสำคัญๆประกอบด้วย
1.
ผงวิภูติ ผงที่เรียกจากอากาศ
2.
ไม้ตะเคียนทอง
3.
ผงจักรพรรดิ หลวงปู่ดู่
4.
ผงรัตนมาลา ของหลวง ลพ.สละ วัดประดู่ทรงธรรม จ.อยุธยา
5.
ผงฉัพพรรณรังสี
6.
ผงเส่นห์นางจันทร์แดง ของลป แดง
7.
ผงแป้งเสก ลปบุญดา
8.
ดอกยอดรักยอดสวาท ยอดรักซ้อน ยอดสวาท
9.
ว่านดอกทอง
10.
ผงดอกบัวบูชา พระอาจารย์วิรัตน์(พระอาจารย์เณร)
11.
ผงพรหทมินตร์
12.
ผงพรายกุมารลปทิม
















วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2564

อาแป๊ะโรงสีผู้เขียนยันต์ฟ้าประทาน





อาแป๊ะโรงสีผู้เขียนยันต์ฟ้าประทาน เป็นหนึ่งในผู้วิเศษชาวจีนที่มีผู้คนนับถือมากที่สุดท่านหนึ่งในยุคปัจจุบันโดยท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นเทพเซียนที่ทำหน้าที่โปรดมนุษย์ในอดีตเจ้าสัวใหญ่ระดับประเทศก็เคยมาขอพึ่งบารมีจนกิจการรุ่งเรืองร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี แม้ปัจจุบันนี้ผู้ที่มาพึ่งบารมีท่านก็ยังได้อานิสงค์ถูกหวยบ้าง ได้รับความเจริญทางธุกิจบ้างอย่างน่าอัศจรรย์




ความหมายยันต์ฟ้าประทานพรอาแป๊ะโรงสี คืออะไร ยันต์ฟ้าประทานพรนี้เป็นยันต์ประจำตัวของท่านอาจารย์เซียนแปะโรงสี กล่าวกันว่าผู้ใดพกพาหรือติดตั้งอยู่ในสถานที่ใดจะพบแต่ความเจริญรุ่งเรืองนำพาโชคลาภเงินทอง รวมถึงสามารถใช้แก้ฮวงจุ้ยเสริมดวงนอกจากนี้ยังขึ้นชื่อทางด้านกันไฟและสิ่งไม่ดีทุกชนิดความหมายของผ้ายันต์อาแปะโรงสี คำว่า กา คือ จำนวนผ้ายันต์1 ผืน

1 กา พกพาติดตัวปรับฮวงจุ้ยชีวิต บุกเบิกฟันฝ่า สร้างเนื้อสร้างตัว ก่อรากฐานชีวิต เอาติดที่ประตูบ้าน

2 ข้างแบบกุ้ยนั่ง รับแรงประทะ โดยมีกาใหญ่ ๆ เป็นประธานในบ้าน เช่น 5 6 7 8 9 10 15 18 ในบ้านเสริมพลังให้ตัวบ้าน

2 กา ร้านเสริมสวย เหมือน ๖ กา เป็นเสน่ห์ ธาตุน้ำ ความสวยงาม

3 กา ใช่ประกอบกับ 8 กาสำหรับที่ที่มีอาถรรพน์เยอะ เป็นการต่อสู้ข่มวิญญาณ เจ้าที่เจ้าทาง

4 กา สำหรับสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม ภัตตาคาร รีสอร์ท บริษัทนำเที่ยว ประกอบกับ 9 กา ยอดเยี่ยมครับ เป็นเรื่องการสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ โรงแรมก็ใช้ได้

5 กา สำนักติว ติวเตอร์ โรงเรียนเอกชนที่ก่อตั้งใหม่ ๆ ยังไม่ดัง ชื่อยังไม่ติดชาร์ต ร้านขายสังฆภัณฑ์ ร้านขายหนังสือ เครื่องเขียน

6 กา เหมือน 2 กา โรงแรม อาบอบนวด สถานบันเทิงเริงรมย์ ร้านเสริมสวย ร้านขายของสวย ๆ งาม กิฟต์ชอป ร้านขายดอกไม้ จัดดอกไม้

7 กา สำหรับฟื้นฟูกิจการ. คลีนิค ร้านทำฟัน ขายอุปกรณ์การแพทย์ วัสดุก่อสร้าง บ.ก่อสร้างทาง

8 กา ร้านเหล้า ร้านอาหาร สำหรับนายทหาร นายตำรวจ ข้าราชการตั้งไว้ในห้องทำงานหลังโต๊ะบนหัวเก้าอี้ที่เรานั่ง มีบารมีลูกน้องเกรงขาม หัวหน้า ผู้จัดการ ดีมาก เคล็ดลับอย่าไปบอกใครมาก

9 กา ขายเครื่องสังฆทาน มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า …

10 กา และ 18 กา เสริมพลังให้บ้าน เป็นการเสริมเติมเต็ม full ภาษาบาลีว่า ปุรณ แปลเป็นไทยว่าครบถ้วนบริบูรณ์ ใช้ติดเป็นปรธานในบ้าน ๆ นั่นจะบริบูรณ์มั่งคั่ง ทรัพย์สินเรืองรอง เงินทองเนืองนองไหลมาไม่ขาดสายดุจสายน้ำในแม่น้ำลำธารที่ไม่มีวันเหือดแห้ง สุขภาพแข็งแรง ภูติผีปีศาจสิ่งอาถรรพน์ไม่มากร้ำกราย โรคภัยไม่เบียดเบียน สมบูรณ์มั่งคั่งดังคำประกาศิตว่าฟ้าประทานพร


วันจันทร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2564

เคล็ดเสริมดวงให้โชคดี



เป็นเคล็ดเสริมโชคของไทยเรา อันนี้ได้ลองแล้ว ดีมาก ทำไม่ยาก ไม่ต้องเสียเงิน จนเกินเหตุ คนเรานั้นดวงชะตาอาจอ่อนกำลังลงเราจึงมักพบเรื่องยุ่งยากวุ่นวายบ่อยกว่าปกติ ลดอุปสรรค ขจัดเคราะห์ภัย เรียกโชคดี สร้างวันสดใส ด้วยเคล็ดเสริมดวงชะตาที่เป็นมงคล

 

1กระเป๋าสตางค์ ต้องตุงก่อน

 เปลี่ยนกระเป๋าสตางค์ใบใหม่เสมอในวันขึ้นปีใหม่ หรือ ถ้าใบเก่าทุกเดิน ใส่เงินจำนวน 900 หรือ  9,000 ในกระเป๋าไว้สักวัน หนึ่งวันหนึ่งคืนเต็ม ๆ เพื่อเอาเคล็ดเอาฤกษ์ เพื่อให้กระเป๋าใบนั้นเป็นกระเป๋าที่ดี เรียกเงินเรียกทองเข้ากระเป๋าได้มาก มีเก็บมากกว่าจะต้องควักออก ไป และทุกครั้งที่รับเงินสดเข้ามา ควรนำเงินมาใส่กระเป๋าเอาไว้ก่อนบางคนอาจจะยังคงปล่อยเงินไว้ในซองแล้วก็นำไปฝากธนาคาร ซึ่งถ้าจะเอาเคล็ดเรียกโชคกันจริง ๆ ตามความเชื่อของคนเฒ่าคนแก่ก็ควรเอาเงินเก็บใส่กระเป๋าสตางค์ไว้ก่อน

 

 

 

2พระสิวลี  ควรมีไว้พกพา หรือ หาโอกาสไปกราบไหว้พระสีวลีที่วัดใดก็ได้ ในท้องที่ที่อาศัยพระสีวลีเป็นเอตทัคคาโชคลาภ ท่านเป็น 1 ใน 80 ศิษย์เอกของพระพุทธเจ้า เมื่อไปกราบไหว้ขอพรจากพระสีวลีชีวิตจะมีโชคดีขึ้น >>>และมีความราบรื่นก้าวหน้า มีเงินมีทองเพิ่มพูนมากขึ้น

 

3ยักษ์และราหู  ไม่ควรมีรูปภาพหรือรูปปั้นยักษ์และราหูประดับตกแต่งในบ้าน เพราะจะทำให้คนในบ้านทะเลาะเบาะแว้งกัน มีแต่เรื่องร้อน ๆ >>>ขาดโชคขาดลาภ พลังของวิญญาน ยกเว้น แบบพกพาที่ ผ่านการปลุกเสกแล้ว แต่ไม่ห้ามเนื่องจากว่า นอกบ้าน ที่ทำงาน อาจมี ลดเพลมพัดนำพลังลบเข้าหาเรา

 

อย่านำโปสเตอร์, รูปภาพหนังผี,คนบาดเจ็บจากนิตยสารที่มีแต่ความน่ากลัวมาติดผนังบ้านหรือรูปคนตายมาติดประดับไว้ที่ห้อง(ยกเว้นภาพถ่ายบุคคลในครอบครัวที่เสียชีวิตไปแล้ว)หลีกเลี่ยงภาพน่ากลัว หรือดูดุร้ายเพราะล้วนเป็นแหล่งเรียกคลื่นพลังงานที่ไม่เป็นมงคลจะทำให้โชคลาภหด หาย คนในบ้านจะมี แต่เรื่องร้าย ๆ เกิดขึ้น เกิดอุบัติเหตุ การนำภาพมาติดผนังประดับบ้านควรเลือกภาพที่ดูสวยงาม

 

4เตียงนอน อย่าตั้งเตียงนอนโดยเอาหัวเตียงหันไปชนกับผนังห้องน้ำ เพราะจะทำให้เสื่อมโชค อับโชค อย่าตั้งเตียงนอนโดยหันปลายเตียงเล็งตรงกับประตูทางเข้าพอดี เพราะจะทำให้ฝันร้ายและอับโชค

 

5สุนัข แมวจรจัด  แบ่งอาหารและน้ำให้แก่สุนัข หรือแมวจรจัดที่หิวโหยบ้าง ในวันฝนตกก็อนุญาตให้จรจัดเข้ามาหลบฝนในชายคาบ้าน การทำบุญทำทานกับพวกนี้ นั้นให้อานิสงส์ผลบุญแก่ตัวเราได้อย่างมหาศาล

 

 6ครัว   ดูแลปัดกวาดเช็ดถูและจัดข้าวของเครื่องใช้ในครัวให้สะอาดอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้ครัวสกปรก เพราะครัวเป็นขุมพลังของบ้าน บ้านที่ปล่อยให้ครัวสกปรกจะอับโชค เงินทองหามาได้ก็ต้องจ่ายออกไป เจริญรุ่งเรืองช้านัก

 

7ผ้าเช็ดหน้า อย่าให้ของขวัญคนรัก หรือเพื่อนสนิท เป็นผ้าเช็ดหน้า เพราะถือว่าเป็นลางไม่ดี ถือเป็นของขวัญอับโชค มอบให้กันแล้วจะมีเรื่องต้องพลัดพรากจากกัน หรือมีเรื่องต้องเมินหมางห่างเหินกันไป

 

8กระจก   ขัดถูกระจกในบ้านให้สะอาดใสอยู่เสมอ ถ้าปล่อยให้กระจกขุ่นมัวเป็นประจำ >>>ดวงชะตาของคนในบ้านจะหม่นหมองทำอะไรไม่ขึ้น

 

 9วันบริสุทธิ์  วันที่ควรงดเว้นการมีเพศสัมพันธ์กับคู่รัก คือวันโกน วันพระ วันเกิดและวันเข้าพรรษา ตามธรรมเนียม โบราณนิยมปฏิบัติกันเช่นนี้ เพื่อให้เทวดาคุ้มครองรักษาตลอดไป

 

 10 เหรียญนำโชค เมื่อเจอเงินตกอยู่ตามทางเดิน แม้จะเป็นเพียงเหรียญบาทก็ให้เก็บเอาไว้ ให้ถือเสมือนเป็นเหรียญนำโชค การเดินผ่านเลยไป เพราะเห็นว่าเป็นเพียงเหรียญบาท เหรียญสลึงนั้น ถือเป็นการดูถูกเงินทองไม่ เห็นคุณค่าของเงินคนเฒ่าคนแก่เชื่อกันว่ามันจะทำให้คุณอับโชคทั้งวันหรือในช่วง 3-7 วันนั้น

 

 11แหวนเสริมดวง เลือกสวมแหวนที่ถูกโฉลกกับเดือนเกิด

 หรือวันเกิดเพื่อเสริมโชคดีให้ชีวิตถ้าอยากเสริมดวงการเงิน - ควรสวมแหวนทอง แหวนเงินแหวนหยกและแหวนหัวพลอยสีที่ถูกโฉลกถ้าอยากเสริมดวงความรัก ให้สวมแหวนรูปหัวใจ รูปดาว เลือกแหวนเพชร หรือเทอร์ควอยส์ก็ได้ ส่วนแหวนลูกปัดและหินสีต่าง ๆ จะช่วยเสริมดวงเสน่ห์  การสวมแหวน สวมแหวนนิ้วกลางขวา - เสริมดวงการเงินและบารมี สวมแหวนนิ้วนาง นิ้วก้อย -ความรัก

 

12เสริมเสน่ห์ และเสริมดวงความรัก ทำบุญโลงศพ ไปที่มูลนิธิใกล้บ้าน ทำบุญบริจาคเงินร่วมกันซื้อโลงศพให้ศพอนาถาที่ไร้ญาติ การทำบุญโลงศพจะช่วยเสริมดวงชะตาให้กล้าแข็ง เหมาะสำหรับช่วงดวงอ่อน และมีทุกข์มีเคราะห์

 

 13พระพรหมศักดิ์สิทธิ์ หาโอกาสไปกราบไหว้พระพรหมสักครั้ง ถ้าอยู่ที่กรุงเทพก็ไปไหว้ที่หัวมุมสี่แยกราชประสงค์ โรงแรมเอราวัณก็ได้ หรือที่ศาลพระพรหมแห่งใดก็ได้ทั้งนั้น พระพรหมเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ที่กล่าวขวัญกันมากว่าบนบานอธิษฐานขออะไรมักได้ดังปรารถนา ด้วยว่าท่านเป็นเทพแห่งความสำเร็จนั่นเอง

 

14หิ้งพระ หรือหิ้งบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเทพต่าง ๆหรือ ร.5, ในหลวงของเรา เมื่อตั้งหิ้ง บูชาแล้วจะต้องหมั่นดูแลรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ หมั่นเปลี่ยนดอกไม้ พวงมาลัย ถวายน้ำสะอาด ถ้าปล่อยให้หิ้งสกปรกมีแต่ฝุ่นจับเต็มไปหมด บ้านนั้นจะมีแต่ความเสื่อมถอย โชคลาภหดหาย ยากที่จะเจริญรุ่งเรือง ไข่ และส้ม ในบ้านเรือนควรมีไข่และมีส้มไว้ในตะกร้าเสมออย่าให้ขาด เพื่อเรียกความสมบูรณ์พูนสุขเข้าบ้าน ทำให้ชีวิตอยู่ดีมีสุขตลอดไป ไข่และส้มเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และความโชคดี


สีผึ้งหลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง แค่หัวไม้ขีดหากันจนพลิกแผ่นดิน!!




หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง หรือพระครูอรรถโกศล เป็นคนระยองโดยกำเนิด เกิดที่บ้านนาตาขวัญ ต. นาตาขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เมื่อวันศุกร์ เดือนหก ปีฉลู ตรงกับ พ.ศ. ๒๔๒๐ ท่านเป็นเพื่อนสนิทกับหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ วิชาของทั้งสองท่าน ว่ากันว่ากินกันไม่ลง ประเด็นสำคัญคือวิชาของหลวงปู่ทาบที่เลื่องลือว่าสุดยอดคือวิชาสีผึ้งเขียว การขอรับสีผึ้งจากหลวงพ่อทาบในสมัยก่อน สำหรับผู้ที่จะมาขอสีผึ้งเขียวของท่านนั้น กว่าจะได้ก็แสนจะลำบากยากเย็น เล่ากันว่าผู้ต้องการจะได้สีผึ้งเขียวของท่านจะต้องมานอนค้างคืนกันที่วัดหลาย ๆ คืน และหลาย ๆ ครั้ง จนหลวงพ่อทาบเห็นความมานะอดทนว่า ต้องการได้จริง ๆ ท่านจึงจะให้ แต่ท่านจะหยิบให้เพียงเท่าหัวไม้ขีดไฟเท่านั้น

 

 สีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบเมื่อใครได้มาแล้วเหมือนกับได้ของวิเศษที่เปี่ยมไปด้วยส่วนผสมแห่งเมตตามหานิยม คนเล่นของในสมัยนั้นจึงนำสีผึ้งหลวงพ่อทาบที่ได้มาเพียงแค่หัวไม้ขีดไฟมาเลี่ยมทองหุ้มใส่สายสร้อยหรือแขวนติดตัว แต่ก่อนจะมอบสีผึ้งเขียวให้แก่ผู้ใด หลวงพ่อทาบจะสั่งสอนวิธีใช้ให้ สำหรับเรื่องผู้หญิงนั้น ถ้าจะใช้สีผึ้งนี่ก็ขอให้ใช้เมื่อจำเป็นจริง ๆ ได้เขาสมใจแล้วก็อย่าไปทิ้งไปขว้าง มิเช่นนั้น จะเกิดวิบัตินักเลงรุ่นเก่าชาวระยองยอมรับว่าสีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบนั้นยอดเยี่ยมจริง ๆ ไม่เคยทำให้ใครผิดหวังโดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง

 

 ท่านผู้เฒ่าท่านหนึ่งใน ต.ตาสิทธิ์ ติดกับวัดหลวงปู่ทิมเล่าให้ผู้เขียนฟังว่าเมื่อสมัยหนุ่ม ๆ ข้าก็ได้อาศัยสีผึ้งเขียว ของหลวงพ่อทาบนี่แหละ จึงได้แม่อ้ายยอด มาจนทุกวันนี้ แม่อ้ายยอดเมื่อสาวๆ มันสวยอย่าบอกใครเชียว หนุ่ม ๆ มาจีบกันหัวกระไดแทบไม่แห้ง แต่ลุง (ตัวคนเล่า) มันพูดจาไม่เก่ง รูปก็ไม่หล่อ แรกๆแม่อ้ายยอดไม่เคยมองลุงเลย ความที่อยากเอาชนะไอ้พวกหนุ่มรุ่นเดียวกัน ลุงจึงดั้นต้นไปขอสีผึ้งเขียวหลวงพ่อทาบ ไปก็หลายครั้งหลายหนอยู่จนท่านจำได้และเห็นมาบ่อย ๆ หลวงพ่อทาบท่านเลยสงสารควักให้มาหัวไม้ขีดหนึ่งสั่งว่าเพียงเอาห่อติดตัว เวลาจะใช้กับผู้หญิงคนใดก็เพียงแต่ทำใจให้นึกเห็นใบหน้าเขาและเข้าไปหาเถอะไม่ช้าก็สำเร็จ และก็ได้ผลจริงๆไม่นานแม่อ้ายยอดเกิดสงสารเห็นใจลุง ทั้งที่ก่อนนั้นเขาไม่เคยชายตามองลุงเลย พวกหนุ่มบ้านอื่นงงเป็นไก่ตาแตกท่านผู้เฒ่าเล่าเสริมต่อไปว่า หลังจากได้แม่อ้ายยอดมาเป็นเมียและอยู่กับมาจนบัดนี้แล้ว ลุงเคยถามเขาว่า เพราะเหตุใดจึงเกิดมารักลุง ทั้งๆ ที่แต่แรกไม่เคยสนใจลุงเลย แม่อ้ายยอดบอกกับลุงว่าเป็นเพราะอะไรไม่รู้ วันไหนถ้าไม่เห็นหน้าลุงใจคอมันหงุดหงิด ร้อนรุ่ม พอได้เห็นหน้าลุงแล้วสบายใจ และไม่ช้าลุงก็ชวนมันมาอยู่กับลุงเสียเลย

 

 ผมได้ถามลุงผู้เฒ่าว่า แล้วสีผึ้งนั้นอยู่ไหน? ขอผมดูหน่อย ท่านผู้เฒ่าบอกว่า เมื่อลุงได้เมียแล้วก็ไม่ได้ใช้อีกเลย เพราะหลวงพ่อท่านสั่งนักสั่งหนาว่าถ้าใช้กับผู้หญิงแล้วต้องเลี้ยงเขาเป็นลูกเมีย ห้ามทิ้งขว้าง ลุงได้แม่อ้ายยอดมาครองคนเดียวก็นับว่าพอใจแล้ว เลยหุ้มทองเก็บไว้ จนอ้ายยอดลูกหัวปีของลุงมันเป็นหนุ่มแล้ว ลุงจึงมอบให้มัน ก็ดูซิอ้ายยอดลูกชายลุงมีเมียตั้ง ๓ คน และอยู่บ้านเดียวกันทั้งนั้น หลานลุงมีเป็นพรวน มีเมียมากมันก็ไม่ดีหรอกหลาน หาเท่าไรไม่พอเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย แต่ก็ดีไปอย่าง อ้ายยอดมันได้เขาแล้วมันก็ไม่ทิ้งไม่ขว้าง เลี้ยงเป็นลูกเป็นเมียทุกคน อ้ายยอดลูกลุงน่ะ มันไม่เท่าไหร่หรอก มีเพียงแค่ ๓ คน เท่านั้น แต่ลูกศิษย์หลวงพ่อทาบที่เคยบวชอยู่กับท่านคนหนึ่งซิ เดี๋ยวนี้ย้ายไปอยู่จันทบุรี มีเมียอยู่บ้านเดียวกันถึง ๖ คน ทุกคนปรองดองกันดี ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันเลย แต่ลูกเป็นกระบุง แต่เขาก็มีฐานะดีนะ เรื่องสีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบ ถ้าใช้เรื่องผู้หญิงรับรองได้เยี่ยมจริง ๆ

 

ท่านพระอาจารย์เสียน มนูญโญ เจ้าอาวาสวัดกระบกขึ้นผึ้ง ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆ ของหลวงทาบ ตลอดจน คุณปถม อาจสาคร อดีตสหกรณ์อำเภอบ้านค่าย และคุณประชา ตรีพาสัย เพื่อนผู้เขียนซึ่งจูงใจให้ผู้เขียนไปรู้จักกับหลวงปู่ทิมจนได้สร้างพระชุดชินบัญชรอันเป็นที่รู้จักกันทุกวันนี้ เคยเล่าเรื่องอานุภาพของสีผึ้งเขียวหลวงพ่อทาบ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันแพร่หลายทั่วจังหวัดระยองให้ฟังว่าเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๓ จ.ระยอง ได้จัดให้มีการประกวดนางสาวระยองขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อคัดคนส่งไปประกวดนางสาวไทยที่กรุงเทพฯ ในงานรัฐธรรมนูญที่วังสราญรมย์ อ. บ้านค่าย ก็สรรหาสาวงามส่งเข้าชิงชัยตำแหน่งนางสาวระยอง เหมือนกับอำเภออื่น ๆ เช่นกัน เมื่อได้สาวงามชาวอำเภอบ้านค่ายแล้ว ทางอำเภอก็นำสาวงามผู้นั้นมาขัดสีฉวีวรรณแล้วสอนกิริยามารยาทจนเป็นที่เรียบร้อย พอใกล้วันประกวดนางงามระยอง เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นไปได้ก็เกิดขึ้น สาวงามซึ่งจะเป็นตัวแทนสาวบ้านค่ายขึ้นเวทีประกวด เกิดสิวเห่อขึ้นเต็มหน้า เป็นที่ตกอกตกใจของคณะกรรมการอำเภอบ้านค่ายไปตามๆ กัน จะหาคนใหม่ก็ไม่ทัน ทุกคนต่างก็จนปัญญาไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไร แต่ถึงอย่างไรก็ต้องส่งสาวผู้นี้เข้าประกวดอยู่ดี เพราะเตรียมการไว้แล้ว แต่โอกาสที่สาวบ้านค่ายจะเป็นนางงามระยองคงหมดหวังแน่ ก่อนถึงวันประกวดคณะกรรมการอำเภอบ้านค่ายทนเสียงอ้อนวอนของผู้ปกครองเด็กไม่ได้ จึงยอมให้ผู้ปกครองเด็กสาวคนนั้นนำไปหาหลวงพ่อทาบ หลวงพ่อทาบท่านทำน้ำมนต์ให้อาบ แล้วให้สีผึ้งเขียวมาหนึ่งหัวไม้ขีดไฟ และยังปลุกเสกแป้งผัดหน้าให้อีกหนึ่งห่อ ทั้งกำชับให้เอาสีผึ้งติดตัวขึ้นไปบนเวทีประกวด และเวลาประกวดก็ให้ใช้แป้งที่ท่านปลุกเสกผัดหน้าขึ้นไปเดินบนเวทีทุกครั้ง ผลการตัดสินสาวงามระยองปี พ.ศ. ๒๕๐๓ นั้น ปรากฏว่าสาวน้อย อ. บ้านค่าย ได้ตำแหน่งนางสาวระยอง ทั้งๆ ที่ใบหน้าสิวขึ้นเยอะ ท่ามกลางความดีอกดีใจของชาวบ้านค่าย และความงุนงงของชาวอำเภออื่น ๆ และในปีต่อ ๆ มาอีก ๒-๓ ปี ชาวอำเภอบ้านค่ายก็ได้นางสาวระยองติดต่อกัน และนางงามบ้านค่ายทุกคนต่างไปขอให้หลวงพ่อทาบรดน้ำมนต์ปิดนะหน้าทอง ได้สีผึ้งเขียวติดตัวและปลุกเสกแป้งผัดหน้าให้เช่นกัน

อาจารย์ปถม อาจสาคร เล่าว่า แป้งผัดหน้านั้น หลวงพ่อทาบท่านลงนะนวลจันทร์ และตั้งแต่นั้นมาชื่อเสียงในด้านเมตตามหานิยมของหลวงพ่อทาบ ก็ยิ่งโด่งดังขึ้น จนคนระยองถึงกับผูกวลียกย่องไว้ว่า “อิทธิฤทธิ์หลวงพ่อเพ่ง เมตตามหานิยมหลวงพ่อทาบ อาคมหลวงพ่อทิม”

 

สีผึ้งเขียวหลวงพ่อทาบมีคาถาใช้ดังนี้

""จิตติ มิตติ อระระหัง ปิยังมะมะ"" ใช้ภาวนาเป็นเมตตามหานิยม และใช้ภาวนาเวลาใช้สีผึ้งเขียวทาปาก เมื่อใช้นิ้วมือแตะสีผึ้งเขียวแล้วให้ว่า นะมโม 3 จบ ก่อน แล้วภาวนาคาถา พร้อมกับทาสีผึ้งเขียวที่ริมปาก จนทาปากเสร็จ

การใช้นิ้วมือแตะสีผึ้งเขียวทาปากนั้น ให้ใช้ดังนี้..

1.เมื่อจะไปหาผู้ใหญ่ หรือผู้มียศ ให้ใช้นิ้วหัวแม่มือแตะสีผึ้งเขียวทาปาก

2.เมื่อจะไปหาคนรุ่นราวคราวเดียวกัน หรือคนรับใช้ ให้ใช้นิ้วชี้แตะสีผึ้งเขียวทาปาก

3.เมื่อจะไปหาผู้สูงอายุ หรือแม่ม่าย ให้ใช้นิ้วกลางแตะสีผึ้งเขียวทาปาก

4.เมื่อจะไปหาสาวๆหนุ่มๆให้ใช้นิ้วนางแตะสีผึ้งเขียวทาปาก

5.เมื่อจะไปหาสาวน้อย หรือคนที่มีอายุน้อยกว่า ให้ใช้นิ้วก้อยแตะสีผึ้งเขียวทางปาก...

หากใช้ขี้ผึ้งอารธนาติดตัว นะโม 3 จบ ""อุกาสะ สัมปะติ จิตติ มิตติ อรหัง""


หุ่นพยนต์อันดับ1 ของแผ่นดิน หลวงพ่อผาด วัดบ้านกรวด

หุ่นพยนต์อันดับ1 ของแผ่นดิน หลวงพ่อผาด วัดบ้านกรวด   สร้างเมื่อปี 2551 ทำมาจากเนื้อผงพรายกุมาร ปลุกเสกโดย หลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวด เมื่อวันท...