วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ประสบการณ์ขุนแผนหลวงพ่อมี วัดมารวิชัยรุ่นแรก


เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี 2547 ซึ่งรับรองว่าเป็นเรื่องจริงและไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีนักที่นำมาใช้ในด้านนี้ 



วันหนึงที่รุ่นพี่ของผม กทม. เค้าไปพบกับขุนแผนหลวงพ่อมีวัดมารวิชัย ที่ศูนย์พระเครื่องแห่งหนึ่งบนห้าง คุยกันนานพอสมควรครับ ทำให้รุ่นพี่ผมตกลงเช่าบูชามาทดลองพุทธคุณตามที่เจ้าของศูนย์บอกในราคาxxxx บาท (ลืมบอกไปที่ศูนย์มี 2 องค์ครับ เจ้าของใช้องค์นึง แล้วก็แบ่งไว้ให้เช่าอีกองค์) ขุนแผนรุ่นนี้หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย และ ครูบาดวงดี จ.เชียงใหม่ เสก โดยอาจารย์เม้ง ขุนแผน  ท่านทำถวาย หลังจากได้มาก็ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์มากนัก เพราะพี่เค้าก็วุ่นกับงานไม่ค่อยมีเวลาเที่ยว แต่พออาทิตย์ต่อมาเมื่อพี่เค้ามาทำงานที่ต่างจังหวัดทางภาคอีสานกับผม วันแรกที่เดินทางมาถึง ไปพบกับเจ้านายที่โรงแรมเพื่อกินข้าวและเชียร์บอลกันตามปกติ พอดูบอลเสร็จ กำลังจะเดินออกจากโรงแรมก็มีสาวใหญ่น่ารัก แต่งตัวภูมิฐานเดินมาคุยด้วย ถามไปถามมาได้ความว่ามาจากนครสวรรค์มาประชุมที่โรงแรม ไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน จากนั้นก็ชวนรุ่นพี่ผมไปเที่ยวซะดื้อๆ เล่นเอาเจ้านายผมกับผมได้แต่ทำตาปริบๆ สรุปเป็นว่าไปเที่ยวเสร็จแทนที่พี่เค้าจะกลับมานอนที่พักที่เตรียมไว้ให้ แกดันต้องไปเปิดโรงแรมที่เราไปกินข้าวกับเจ้านายซะงั้น เพราะสาวคนนั้นเค้ามากะรุ่นน้อง (อ่า...รุ่นน้อง เธอเป็นกระเทยอ่ะครับ เลยต้องหาห้องใหม่นอนคุกัน) พอวันรุ่งขึ้นผมไปรับแกมาทำงานตามปกติครับ พอตกเย็นแกก็ชวนผมไปเที่ยวที่แกไปมาเมื่อคืน อีกแระวันนี้ ปรากฏว่าน้องนักศึกษามหาลัยโต๊ะข้างๆ ที่มากันสองคนเหล่มาทางแกอีกแระ เด็กในบริษัทที่มาด้วยก็เลยไปทาบทามให้แก ซักพักผมเดินออกไปห้องน้ำกลับมาถึงโต๊ะ ปรากฏว่าแกแวลไปกะเด็กโต๊ะข้างซะแล้ว โอ...ผมเลยต้องกลับที่พักคนเดียวอีกแล้ว พอเจอกันตอนเช้าพี่แกก้อยิ้มกลุ้มกลิ่มออกมาหาที่หน้างานแต่เช้า ผมก็เลยพูดประชดไปว่ามีของดีอะไรก็เช่ามาฝากน้องฝากนุ่งบางสิ ใช้คนเดียวไม่แบ่งนี่ประเดี๋ยวแช่งให้แฟนจับได้ซะเลย แกก็เลยปล่อยก๊าก...ก่อนที่จะรับปากว่า เออ...กลับ กทม. จะเช่ามาให้    หลังจากนั้นไปเกือบอาทิตย์ แกโทรมาบอกว่า ตอนนี้อยู่ที่ร้าน มีเหลือองค์เดียวเอาไหม เป็นของเจ้าของร้านนะ เค้าตัดใจให้เช่า เลี่ยมเข้ากรอบแล้ว ให้บูชาต่อตอนนั้นผมก็ไม่รู้อ่ะครับ ถ้าได้ผลแบบรุ่นพี่แค่พันจะเสียดายทำไม ผมเลยตอบตกลงไป เดี๋ยวอีกสองสามวันผมจะเข้า กทม. อยู่แล้ว เดี๋ยวผมแวะไปเอาเองไม่ต้องส่งมาให้

 

พอถึงวันที่ต้องลงมาเคลียงานที่ กทม. ช่วงเช้าผมต้องแก้ไขปัญหาที่หน้างานกับน้องๆในบริษัท พอตกเย็นน้องในบริษัทคนนึง เค้าโทรชวนรุ่นพี่เค้าที่เคยทำงานกับผมมากินข้าวเย็นด้วย เด็กคนนี้ไม่สวยมากครับ แต่ดูน่ารักใช้ได้ ซึ่งผมเองก็แอบมองอยู่สมัยที่เค้าเคยร่วมงานกับผม แต่ทำไรมากไม่ได้ เพราะเธอไม่เล่นด้วย ก็เธอดันรู้ว่าผมมีแฟนอยู่แล้วครับ บังเอิญก่อนไปกินข้าวนั้นผมแอบดอดไปรับขุนแผนกับรุ่นพี่มาก่อน เผื่อว่าจะได้ลองใช้ซะหน่อย แถมระหว่างทางปลุกแล้วอธิฐานเสร็จสรรพ เรานัดกันที่ร้านอาหารใกล้ที่พักรุ่นพี่ของน้องที่อยู่ในออฟฟิศ เพื่อให้เค้าเดินทางง่ายๆ ตอนกินข้าวก็ไม่มีอะไรมากมายครับ แอลกอฮอลล์ก็ไม่ได้ดื่มกันมาก ดึกพอสมควรผมเลยขอตัวขับรถไปส่งน้องๆ ในออฟฟิศ พอถึงคิวที่จะส่งเด็กคนนั้น ผมก็แกล้วง่วงแกล้งเหนื่อย แล้วก็ขอด้วยค้างดื้อ เธอเงียบไปพักนึง ก่อนที่จะตอบว่าได้ค่ะ แต่ต้องให้น้องที่ออฟฟิศผมอยู่ด้วย ผมตอบโอเคโดยไม่ต้องคิดครับ เราขับรถมาจะถึงที่พักของเด็กคนนั้นอยู่แล้ว อยู่ๆ น้องที่ออฟฟิศผมบ่นอยากก๊งเบียร์ขึ้นมา เอาก็เอาตามใจ เลยต้องจอดรถแวะซื้อ พอมาถึงอพาตเม้น เด็กคนนั้นก็ขอตัวไปอาบน้ำ ปล่อยให้ผมนั่งมองน้องที่ออฟฟิศ กระดกแก้วเบียร์อยู่หน้าโทรทัศน์ พอเธออาบเสร็จ ผมก็เลยไปอาบมั่ง ระหว่างที่อาบน้ำได้ยินเสียงคุยกันว่าให้ผมไปนอนข้างล่าง ส่วนน้องที่ออฟฟิศกับเค้าจะนอนบนเตียง กรรม...ท่าทางจะอดได้กอดซะแล้วหรือเรา ผมเลยล้วงกระเป๋าหยิบเอาขุนแผนพรายกุมารขึ้นมาปลุกอีกรอบพร้อมกับตั้งสมาธิ ขอให้ ได้นอนเด็กคนนั้นสักคืน (จะทำไรคงไม่สะดวก เพราะมีคนอื่นอยู่ด้วย) พอผมอาบเสร็จ น้องที่ออฟฟิศก็เลยเดินโซเซไปอาบ ผมเลยใช้จังหวะนี้คุยกับเด็กคนนั้นแบบใกล้ชิด ป้อนนั่นป้อนนี่เข้าปาก หยอกไปหยอกมา แบบถึงตัว ตอนแรกเธอก็ขัดขืนครับ แต่สักพักเธอก็อ่อนลงปล่อยให้มือผมซนได้ไปทั่วตัวเธอ แต่เราต้องแยกกันแบบวงแตกเมื่อเจ้าน้องที่ออฟฟิศเดินขยี้ตาออกมาจากห้องน้ำ ดูเหมือนจะเมาได้ที่แล้ว พอเดินมาถึงเตียงก็สิ้นสติ หลับไปซะงัน แต่ก็ยังอุตส่าห์นอนตรงกลางกั้นเราไว้อีก แต่เนื่องจากเตียงใหญ่มาก หัวเจ้านั่นเลยมาถึงแต่กลางเตียง ห้อยขาเอาไว้กับขอบเตียง ผมจึงเดินไปปิดไฟ แล้วเดินมานอนบนเตียงเอาดื้อๆ เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร ที่สำคัญหมอนน่ะมีแค่ใบเดียวซึ่งใหญ่พอที่เราสองคนหนุนด้วยกันได้ ตอนแรกเธอก็คงอายๆครับ ผมเลยชวนคุยเรื่องนู่นเรื่องนี่ไปเรื่อยๆ มือก็ลูบที่หัวเธอเบาๆ ก่อนจะเลื่อนมาจับที่หน้าเธอ (อ่า...คือจะหาว่าริมฝีปากเธออยู่ไหนน่ะครับ) รอจังหวะที่เธอคุยกบผม ผมจึงรีบจูบเธอทันที่ เธอตกใจและเกร็งไปแปปนึง ก่อนที่เธอจะเผลอลืมตัวจูบตอบ พร้อมกับเอื้อมมือมาโน้มคอผมไว้ แต่ยังไม่ทันจะได้ทำไรต่อ เจ้าน้องที่ออฟฟิศที่สลบด้วยฤทธิ์เบียร์ก็ลุกขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วก็โวยวายเหมือนคนบ้าว่าโดนผีเด็กวิ่งไล่ ลุกขึ้นมาหอบเหมือนคนวิ่งพึ่งหยุด แล้วก็บอกไม่เอาแล้ว ขอไปนอนชิดผนังด้านในดีกว่ากลัวผี ผมงี้เหงื่อแตกเลยไม่รู้ว่าเป็นเพราะพรายกุมารหรือเปล่า เลยตั้งสมาธินึกถึงคุณหลวงปู่ธีร์ที่ตัวเองนับถือ บริกรรมคาถามงกุฏพระเจ้า แล้วเป่าไปที่หัวให้น้องที่ออฟฟิศ เค้าเลยสงบแล้วกลับไปนอนต่ออย่างเดิมที่ริมห้องด้านใน คืนนั้นผมเลยได้กอดสาวสมใจ แม้จะไม่ได้มีอะไรกันแต่ผมก็ได้สำรวจร่างกายเธอจะทุกมุมจนพอใจ รุ่งเช้าเราจึงแยกย้ายกันไปทำงานตามหน้าที่ของตัวเอง ส่วนผมก็เดินทางกลับไปคุมงานที่ต่างจังหวัดต่อ หลังจากนั้นอีกไม่กี่ วันผมเดินทางมาตามงานที่ค้างอยู่ที่ กทม. อีกครั้ง คราวนี้ผมลองโทรนัดเธอไปเที่ยว และขอค้างที่ห้องเธออีกโดยมีแต่เราสองคน ปรากฏว่าเธอตกลง ซึ่งผมเองก็มารู้ทีหลังจากที่เรามีอะไรกันแล้ว ว่าเธอมีแฟนแล้ว คบกันมาสักพัก และวันที่ผมไปหา แฟนเค้าก็แวะมาหาที่ห้องแต่เค้าก็ออกมาข้างนอกกับผม ก็ไม่รู้ทำไม เธอก็ตัดสินใจมาเลือกผม ทั้งที่ไม่เคยคิดจะชอบ ทั้งที่รู้ว่าผมมีแฟนอยู่แล้ว เธอบอกว่าถ้าผมไม่โทรหา เธอจะห่วงและคิดถึงผมมาก แต่ก็ไม่ยอมโทรไปหาผม เพราะกลัวแฟนผมรู้ว่าเราคบกันครับ และเธอก็ไม่เคบเอ่ยปากขอให้ผมให้อะไรกับเธอ หรือเรียกร้องให้เลี้ยงดูเลย ขอเพียงให้ผมรักเธอเท่านั้นก็พอ เธอยินดีจะอยู่ในที่ของเธอ (ซึ่งตอนนี้เธอเลิกกับแฟนไปแล้ว) ครั้งหลังที่ผมไปพบเธอ ผมพกขุนแผนหลวงพ่อมี วัดมารวิชัยองค์เดียว

 ซึ่งก่อนหน้านี้นิดหน่อย ผมมีโอกาสได้ผมไปแวะนวดอโรมาคลายเหมือย ที่กรำงานหนักในต่างจังหวัดที่สปาแถวที่พักจนได้ไปดูหนังกับน้องคนที่นวดให้ ผม ขากลับผมก็ได้ไปค้างที่ห้องของเธอครับ เธอก็รู้ครับว่าผมมีแฟนแล้ว เพราะตอนนวดนั้นพอดีแฟนผมโทรหาอยู่นานเหมือนกัน จนเธอต้องหยุดนวดไปพักใหญ่ที่ มาแชร์ประสบการณ์นี่ไม่ได้เชียร์ให้ใครบูชาพระหรือของขลังที่ผมใช้อยู่นะ ครับ แต่อยากเล่าให้ฟังว่า พุทธคุณของเครื่องรางของขลังนั้นมีจริง แต่ก็ขึ้นอยู่ที่ตัวของผู้ใช้ด้วย ว่านับถือเพียงใด รักษาศีลและสัจจะเพียงใดในการถือครอง รวมทั้งของขลังประเภทพรายชิ้นนั้นมีบุญวาสนากับคุณไหม เพราะอย่าลืมว่าปลุกเสกด้วยผงพราย ผงอาถรรพ์แค่ไม่กี่ตน แต่ถูกสร้างเป็นหลายร้อยหลายพันชิ้น หากคนมีไม่เคยปลุกด้วยคาถา ไม่เคยคุยกับเค้า หรือไม่เคยแม้จะคิดทำบุญอุทิศให้ รอให้ช่วยตัวเองอย่างเดียว เค้าจะอยู่ช่วยไหมละครับ แล้วจะมาหาว่าไม่แรง ไม่เห็นดี แต่อีกคนนึงบูชามาแล้ว หมั่นทำบุญให้ อยู่ในศีลธรรม แม้นไม่ได้ตั้งใจใช้ ก็ย่อมเห็นผล เนื่องมาจากบารมีที่ทำไว้กับพราย เป็นท่านคงเข้าใจนะครับ อย่างตัวผมเองก็เป็นคนธรรมดา หน้าตาพอดูได้ ดำๆ ผอมๆ ไม่ได้หล่อ ไม่ได้รวยอะไร แต่ก็มีผู้หญิงให้ความสนใจ แล้วผู้หญิงของผมแต่ละคนก็ไม่ได้หาเอาตามผับตามเธค ล้วนมีหน้าที่การงานทั้งนั้น นั่นคือไม่ได้หมายความว่าเป็นผู้หญิงที่ง่ายๆเพียงเพื่อรักสนุก หรือต้องการอะไรเป็นข้อแลกเปลี่ยน แต่ทุกคนที่ผมคบล้วนรู้อยู่เต็มอกว่าผมมีพันธะแล้วทั้งนั้น ซึ่งเค้ายอมอยู่ในพื้นที่ของเค้า ขอเพียงให้ผมโทรหาบ้าง ไปหาบ้าง พาเที่ยวบ้าง ก็พอใจ แล้วทุกคนก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร แต่ก่อนที่ผมจะมีอะไรกับทุกคน ผมจะต้องถามก่อนว่าเต็มใจไหม ทนได้ไหมที่ผมมีแฟนอยู่ แล้วจะต้องมาเป็นของผมอีก ซึ่งถ้าไม่ยินดีผมก็จะหยุดซะ เราเองต้องรับผิดชอบการกระทำของเราด้วย หากเค้าไม่เต็มใจก็อย่าสร้างกรรมเลย เพราะผมถือเป็นสัจจะที่ให้กลับพรายที่ช่วยเหลือผม ในทุกวันพระ ผมจะไปทำบุญที่วัดใกล้บ้าน ถวายทาน ถวายอาหารเพล แล้วกรวดน้ำอุทิศให้แก่พวกเค้าที่คอยช่วยเหลือผม พอช่วงเย็นหลังจากทำบุญก็จะจุดธูป เทียน แล้วตั้งเครื่องเซ่นให้เค้า (พราย/พยนต์/งั่ง) จำพวกผลไม้ ขนม น้ำเปล่า น้ำแดง และบุหรี่ (ส่วนเหล้าขาว จะเซ่นถ้าหากได้มีอะไรกับผู้หญิงที่ผมขอ แต่ก็ไม่ค่อยได้ขอพร่ำเพรื่อ หรอกครับ เพราะเราต้องดูแลครอบครัวของเราและผู้หญิงของเราให้ดี) แต่ที่แปลกคือผมไม่เคยเจอพรายหรืออะไรกับตัวเลย มีแต่คนรอบข้างเท่านั้นที่เจอ บางคนถามแปลกๆ ว่าปกติที่ห้องไม่เคยได้ยินเสียงอะไรแปลกๆแบบนี้ พี่เลี้ยงอะไร หรือพาใครมาห้องหนูด้วยหรือเปล่าทำนองนี้ครับ

 

ปล. พิธีที่เชียงใหม่ ตอนเสกมีเสียงคนวิ่งบนเพดานโบสถ์ทั้งพิธี พอจบพิธีถ่ายรูปก็ติดผู้หญิงมายิ้มด้วย และมีเพื่อน อ.เม้งมาหาร้องไห้ว่าแฟนหนีไป ท่านก็ให้ไปใช้ อาทิตย์ต่อมาก็มายื่นการด์แต่งงานให้อ.เม้ง ทำให้แปลกใจกันไปตามๆกัน คนที่เอาไปแล้วส่วนใหญ่จะมาเก็บเพิ่ม เพราะบอกว่ามีตัวตนมีคนนึงเอาไปเขาโทรมาบอกว่า มีคนมากอด หอมแก้มเขา เพราะคนที่รับไปเขาไปทำบุญให้ เลยมาขอบคุณ บางคนเจอมาเดินเลยครับ ส่วนน้องผมเจอกุมารที่ติดมา เขาบอกว่ามีเด็กมาเล่นมือเขาตอนนอน มาเคาะประตูเรียก บางคนเอาไปก็ไม่เจอ ไม่มีสื่อครับ แต่ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวว่าเสน่ห์ยอดเยี่ยม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เหรียญหล่อพระรัตนจักรชัยสิทธิ์ หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน ปี 2543

  เหรียญหล่อพระรัตนจักรชัยสิทธิ์ หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน ปี/ 2543 เป็นวัตถุมงคลที่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งใน “ของหายาก” ที่ผู้ศรัทธาต่างเสาะแสวงหามา...